ยินดีต้อนรับสู่เว็บประกาศฟรี www.fieldcircus.com

"เว็บไซต์นี้เป็นเพียงสื่อกลางในการประกาศ ซื้อ/ขาย ทางเว็บจะไม่รับผิดชอบใดๆต่อการติดต่อ ซื้อ/ขาย ของท่านทุกรายการ โปรดพิจารณาความเหมาะสมก่อนการ ซื้อ/ขาย"

เสื้อผ้าเด็กอ่อน,เสื้อผ้าเด็กแรกเกิด,บอดี้สูทเด็ก  สเปรย์ล้างโซ่ สเปรย์หล่อลื่นโซ่  ติดตั้งกล้องวงจรปิด        

 

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - guupost

หน้า: [1] 2 3 ... 33
1
ทรูมูฟ เอช เปิดศูนย์รับเรื่องร้องเรียน โทร. 9777 ช่วยปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์สร้างความเดือดร้อนแบบครบวงจร

รายงานข่าวจากกลุ่มทรู เปิดเผยว่า จากกรณีแก๊งคอลเซ็นเตอร์สร้างความเดือดร้อนอย่างหนักให้ประชาชนคนไทยในขณะนี้ ทางทรูมูฟ เอช มีความห่วงใย และต้องการร่วมแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน จึงเดินหน้าผนึกกำลังศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) และ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ร่วมยกระดับการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีให้เป็นไปแบบครบวงจร โดยเปิดศูนย์รับเรื่องร้องเรียน โทร. 9777

สำหรับลูกค้าทรูมูฟ เอช ให้ติดต่อโทรฟรีแจ้งข้อมูลเบอร์โทรเข้าที่ต้องสงสัยและ SMS หลอกลวง รองรับทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ตลอด 24 ช.ม. โดยจะมีทีมงานเชี่ยวชาญตรวจสอบ คัดกรองข้อมูลและแจ้งกลับเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้าภายใน 72 ช.ม. พร้อมดำเนินการบล็อกเบอร์โทรและ SMS นั้นในระบบทันทีที่พบและยืนยันแน่ชัดว่าเป็นหมายเลขและ SMS จากกลุ่มคอลเซ็นเตอร์มิจฉาชีพจริง และส่งต่อข้อมูลหมายเลขดังกล่าวไปยังกสทช. และ ศปอส.ตร. เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการป้องกันและจัดการกับมิจฉาชีพตามกฎหมายได้ทันท่วงที และที่ คอลเซ็นเตอร์ ทรู บริการช่วยเหลือทางออนไลน์ ตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้ยังเปิดช่องทางรับเรื่องตรวจสอบหมายเลขต้องสงสัยผ่าน “มะลิ AI” บนแพลตฟอร์มทรูไอเซอร์วิส และต่อยอดความร่วมมือกับ “Whoscall” แอปพลิเคชันเช็คเบอร์แปลกแจ้งเตือนก่อนรับสาย เพื่อส่งต่อข้อมูลให้ดำเนินการขึ้นเตือน ภายใต้ภารกิจสร้างเกราะคุ้มกันภัยทางออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ลูกค้าคนสำคัญของทรูสบายใจได้ในทุกการสื่อสาร



บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า กลุ่มทรู ตระหนักถึงภัยอาชญากรรมออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นและมีกลโกงที่นับวันก็มีหลากหลายรูปแบบมากยิ่งขึ้น ก่อให้เกิดความรำคาญและสร้างความเดือดร้อนเสียหายให้กับผู้ที่หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ โดยทรูมูฟ เอช อยากให้มีความปลอดภัยและมั่นใจในการใช้บริการมากยิ่งขึ้น

นอกจากจะให้ความสำคัญในการดูแลปกป้องรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าแล้ว ยังเดินหน้ายกระดับการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ด้วยความตั้งใจแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม จึงร่วมมือกับ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือ ศูนย์ PCT และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)

จัดเป็นการทำงานร่วมกันแบบบูรณาการ ตั้งเป้าในการแก้ไขปัญหาให้เป็นไปแบบครบวงจร อันจะนำไปสู่การกวาดล้างจับกุมกลุ่มมิจฉาชีพและดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยเปิดฮอตไลน์ 9777 ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนเบอร์โทรต้องสงสัยและ SMS มิจฉาชีพ สำหรับลูกค้าทรูมูฟ เอช โทรฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง รองรับทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ และยังจัดตั้งทีมงานพิเศษโดยเฉพาะ คอยตรวจสอบ คัดกรองข้อมูลอย่างแม่นยำ และแจ้งผลการตรวจสอบแก่ลูกค้าภายใน 72 ชั่วโมง

และในครั้งนี้ เป็นที่น่ายินดีสำหรับผู้บริโภคที่ ทรูมูฟ เอช ได้ริเริ่มเปิด Hotline 9777 รับเรื่องร้องเรียนเบอร์โทรมิจฉาชีพและ SMS หลอกลวง ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่ออำนวยความสะดวกลูกค้าทรูมูฟ เอช ในการแจ้งข้อมูลเบอร์ต้องสงสัยให้ตรวจสอบ ทั้งยังเชื่อมโยงข้อมูลกับศูนย์ PCT เพื่อนำไปสู่การสืบค้นและจับกุมคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยป้องปรามกลุ่มมิจฉาชีพและเพิ่มความปลอดภัยแก่ผู้ใช้บริการโทรคมนาคมในวงกว้าง นับเป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้าของการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด เพื่อร่วมกันกวาดล้างกลุ่มมิจฉาชีพให้ลดน้อยและหมดไปได้ในที่สุด

สงสัยเรื่องไหนอยู่ หาคำตอบได้ที่นี่ คอลเซ็นเตอร์ ทรู

2
พัดลมตั้งโต๊ะ ถือว่าเป็นพัดลมที่นิยมการใช้งานมากที่สุด พัดลมตั้งโต๊ะหลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้จักว่าหน้าตาเป็นอย่างไรหรือบางคนอาจจะเรียกเพียงแค่พัดลมแต่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าชื่อเต็มๆ ของมันนั่นคือแบบนี้ แท้จริงแล้วพัดลมตัวนี้ก็คือพัดลมที่เราใช้ตามบ้านกันทั่วไปวางกับพื้นไม่ได้ติดผนังอาจจะมีการเพิ่มความสูงด้วยการยืดตัวของมันเองได้ พัดลม ประเภทนี้ได้รับความนิยมสูงเป็นอย่างมาก มีขนาดตั้งแต่ 12 นิ้วขึ้นไปหรืออาจจะเล็กกว่านั้น ใหญ่จนถึงขนาด 18 นิ้วสำหรับความนิยมในการใช้บนบ้านของเราเองหรือที่อยู่อาศัย

ไทยเป็นเมืองที่ร้อนการระบายความร้อนจัดเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากแต่บางครั้งหลาย ๆ คนอาจจะบอกว่าพัดลมเพียงอย่างเดียวอาจจะทำให้เรานั้นไม่เพียงพอ แต่ถ้าเราอยู่ในที่โล่งแล้วให้อากาศช่วยถ่ายเทอีกสักนิดดึงความเย็นจากภายนอกมาช่วยสักหน่อย ก็จะดีกว่าการที่เราอยู่ในห้องอับแล้วให้อากาศหมุนเวียนแต่เพียงแบบเดิม การใช้พัดลม 2 ตัว อย่างเช่นดูดอากาศภายในจากห้องออกไปใบพัดลมดูด แล้วดึงอากาศจากภายนอกที่มีความเย็นก่อนเข้ามาใช้งานถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกหลักพลศาสตร์มากที่สุด

พัดลมตั้งพื้นถ้าเราเลือกให้ดียี่ห้อที่มีคุณภาพ เราจะใช้งานได้อย่างยาวนานทั้งนี้เพราะโดยเฉลี่ยแล้วการใช้งานพัดลมแต่ละครั้งเราจะเปิดใช้งานต่อเนื่องนานหลายชั่วโมง โดยเฉพาะบางคนใช้พัดลมในการนอน แน่นอนว่าเราจะต้องเปิดต่อเนื่องอย่างน้อยที่สุด 8 ชั่วโมงขึ้นไปจึงควรเลือกพัดลมที่มีคุณภาพสูงมียี่ห้อมาตรฐาน เราสามารถเลือกซื้อเลือกหาได้ตามร้านค้าทั่วไป และดูในส่วนของการรับประกันสินค้าเป็นหลัก มอเตอร์จะต้องมีความทนทานเรียกว่าถ้ามีการรับประกันมอเตอร์สูงเราก็สามารถตัดสินใจเลือกพัดลมตัวนั้นได้ในทันที

คุณภาพของ พัดลม โดยส่วนมากนั้นอาจจะไม่ได้ต่างกันมากในสิ่งที่เราต้องทำยังอีกประการคือเมื่อเวลาที่เราเปิดพัดลมแล้วจะต้องให้ความเย็นระบายอากาศได้ดี  และจะต้องมีเสียงที่เงียบ โดยเฉพาะการใช้ในห้องนอนหรือห้องพักผ่อน การถ่ายเทลมให้พอเหมาะแล้วพัดลมนั้นไม่มีเสียงมารบกวนจะทำให้เราพักผ่อนได้อย่างสบายใจ ใครที่กำลังเลือกพัดลมตั้งโต๊ะ ใครเอาวิถีทางเหล่านี้ไปใช้กันด้วย ไม่ว่าจะใช้งานในส่วนของห้องรับแขกหรือห้องนอนเรื่องของเสียงก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ บางครั้งเพราะอาจจะต้องฟังพัดลมที่มีเสียงดังเกินไป เมื่อเวลาปิดพัดลมจึงทำให้เรารู้ว่า เสียงเหล่านี้ทำให้เรารำคาญโสดประสาทเป็นอย่างมาก เลือกทั้งทีควรดูในส่วนนี้เป็นสำคัญกันด้วย

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/APP0508


3
ร้อยทั้งร้อยของท่านที่เลือกใช้ Lancome Absolue หรือครีม ลังโคม ลดริ้วรอย ต่างล้วนปรารถนาผลลัพธ์เป็นผิวสวย หน้ากระจ่างใส และปราศจากริ้วรอยก่อนวัย แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกท่านจะได้ผลลัพธ์ตามใจปรารถนาเนื่องจากมีเหตุผลเยอะแยะมากมายที่ทำให้ท่านที่ใช้ครีมบำรุงผิวไม่ได้ผลตามที่ต้องการ เป็นต้นว่า การเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับผิวหน้าของตัวท่านเอง ไปจนถึงการใช้ครีมอย่างไม่ถูกต้องตามวิธี เพื่อให้ทุกท่านได้ผลลัพธ์จากการใช้ผลิตภัณฑ์ตามที่ใจต้องการ ลองมาดูกันดีกว่าว่า “เคล็ดลับการใช้ผลิตภัณฑ์ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด” นั้นต้องทำยังไงบ้าง

1- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวอย่างพิถีพิถัน
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากครีมบำรุงผิวพรรณ ท่านต้องเริ่มต้นจากการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวของตัวเองมากที่สุด ให้เริ่มคำนึงว่าตนเองมีสภาพผิวหน้าเป็นอย่างไร หากคุณ ๆมีผิวมัน ควรเลือกใช้ครีมที่มีเนื้อสัมผัสบางเบา หากเป็นผู้มีผิวแห้ง ควรเลือกใช้ครีมเนื้อหนาหนักเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ส่วนใครที่มีผิวผสมให้เน้นการใช้ครีมเนื้อเบาบริเวณ T-ZONE และใช้ครีมที่เหมาะกับสภาพผิวแห้งในบริเวณหน้าผากและแก้มทั้งสองข้าง

2- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ตามปัญหาผิวที่ต้องการแก้ไข
นอกเหนือจากการเลือกซื้อเลือกหา เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับสภาพผิวแล้วนั้น การเลือกใช้ครีมบำรุงตามปัญหาผิวที่ต้องการแก้ไขโดยเฉพาะคืออีกขั้นตอนสำคัญเพื่อผลลัพธ์ผิวดีตามต้องการ ลองพิจารณาดูเสียก่อนว่าแท้จริงแล้วปัญหาผิวที่คุณมีนั้นคืออะไร อาทิเช่น หากคุณมีปัญหาริ้วรอยก่อนวัย ก็ควรเลือกใช้ครีมลดริ้วรอยที่มีส่วนผสมช่วยดูแลฟื้นฟูผิวให้อ่อนเยาว์ พร้อมเติมความชุ่มชื้น เพิ่มคอลลาเจนให้ชั้นผิว

3-จัดเรียงการใช้ผลิตภัณฑ์อย่างถูกต้อง
ไม่ใช่ว่าท่านสามารถใช้ครีม หรือเซรั่มอะไรก่อนหลังก็ได้ แต่การจัดเรียงการใช้ผลิตภัณฑ์แต่ละแบบให้ถูกต้องคืออีกหนึ่งเคล็ดลับเพื่อประสิทธิภาพการใช้ครีมบำรุงสูงสุด ทั้งนี้ขั้นตอนในการเรียงลำดับคือให้พิจารณาจากความหนาหนักของเนื้อผลิตภัณฑ์ ให้เริ่มต้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อบางเบาที่สุด อย่างเช่น น้ำตบ หรือเซรั่ม จากนั้นจึงใช้ครีมหรือโลชั่นที่มีเนื้อหนาหนักตามลงตามมาเป็นลำดับ

4- จับคู่สูตรการบำรุงเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ลงตัว
เป็นที่รู้กันดีว่าการใช้ครีมบำรุงบางตัวคู่กันจะยิ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพบำรุงผิว แต่ครีมบำรุงหรือส่วนผสมบางชนิดก็ไม่ควรใช้ด้วยกันเนื่องจากจะยิ่งสร้างผลเสียแก่ผิวหน้า ในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ท่านจึงต้องให้ความสำคัญกับความเข้ากันของส่วนผสมต่าง ๆ ทั้งนี้ คุณสามารถเลือกซื้อเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เป็นเซ็ตที่ทางแบรนด์เครื่องสำอางส่วนใหญ่จับคู่และคัดเลือกมาให้แล้ว เพราะว่าอย่างน้อยๆ ท่านก็สามารถมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ตามเซ็ตที่จัดมาผ่านการคัดสรรแล้วว่าส่วนผสมนั้นเข้ากันดีและจะไม่ส่งผลเสียต่อผิวหน้า

สุดท้ายนี้เพื่อการมีผิวหน้าเรียบเนียน กระจ่างใส แลดูสุขภาพดี นอกเหนือจากการเลือกใช้โลชั่นบำรุงผิวหน้าให้เหมาะสมกับสภาพผิวและถูกต้องตามขั้นตอนการใช้งานแล้วนั้น การดูแลสุขภาพตนเองให้ดี เช่น พักผ่อนอย่างเพียงพอ เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ รวมไปถึงการทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดหมดจดในทุกๆ วัน คืออีกหนึ่งปัจจัยเด่นที่ต้องให้ความสำคัญเพื่อเสริมสร้างผลลัพธ์ผิวสวยตามที่ต้องการ

แวะชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.lancome.co.th/th_TH/skincare/by-range/absolue/


4

เทรนด์ริมฝีปากฉ่ำวาวดูสุขภาพดี ยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง YSL จึงพร้อมเติมเต็มริมฝีปากสวยสดใส เปล่งประกายแวววาวให้คุณ ด้วย YSL VERNIS À LÈVRES WATER GLOW LIQUID LIPSTICK  ลิปสเตนเนื้อบางเบา ที่ให้ฟินิชแวววาว เปล่งประกาย พร้อมเม็ดสีติดแน่น ให้ความรู้สึกเบาสบายปาก ไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ พร้อมแต่งริมฝีปากสาวๆ ให้สวย สดใส เจิดจ้าในแบบฉบับสาว YSL Yves Saint Laurent Beauty
เพราะอะไร YSL VERNIS À LÈVRES WATER GLOW LIQUID LIPSTICK  ถึงเป็นลิปสติกที่สาวๆ ทุกคนหลงใหล
✔️ ฉ่ำวาวชุ่มชื่นด้วยส่วนประกอบของน้ำ ให้สีชัด และติดทนนาน
ลิปสเตน  VERNIS À LÈVRES WATER GLOW LIQUID LIPSTICK เป็นลิปสติกโกลวสเตน (glow stain) ซึ่งอุดมด้วยน้ำ มอบความเปล่งประกายที่วาววับยิ่งขึ้น ผลลัพธ์คือความนู้ดแนวใหม่และสีสันบนเรียวปากที่เจิดจ้าสะดุดตา ให้สัมผัสที่บางเบา ชุ่มชื้น รู้สึกสบายปากเมื่อทา เม็ดสีแน่น ให้สีชัด และติดทนนาน ทำให้ริมฝีปากดูสดใสฉ่ำวาวแบบสาวสุขภาพดี

✔️ พร้อมบำรุงริมฝีปากอย่างอ่อนโยน ด้วยส่วนผสมจากสารสกัดจากดอกแมลโลว์
หมดปัญหาสำหรับผู้ที่มี ริมฝีปากแห้ง เนื่องจาก VERNIS À LÈVRES WATER GLOW LIQUID LIPSTICK นั้น นอกจากให้สีสันที่สดใส ฉ่ำวาวแก่เรียวปากแล้ว ยังมาพร้อมสรรพคุณในการฟื้นบำรุงผิวปากให้เนียนนุ่ม มีส่วนผสมจากสารสกัดจากดอกแมลโลว์เพื่อให้ริมฝีปากเรียบเนียนขึ้น ยิ่งไปกว่านี้ยังมีว่านหางจระเข้เพื่อมอบความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก อุดมไปด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ช่วยในการดูแลผิวปาก ทำให้ผิวปากชุ่มชื้น ไม่แห้งเป็นขุย
✔️ หลากหลายสีสัน หลายหลายลุค พร้อมให้ท่านเลือกใช้ได้อย่างใจ
ลิปสติก YSL ถูกคิดค้นมาเพื่อให้ผู้หญิงทุกคนได้เลือกแต่งเติมสีสันที่ดีที่สุดให้แก่ตัวเอง เฉดสีแต่ละเฉดของลิปสติกพร้อมเติมเต็มความเป็นตัวของตัวเองที่เต็มเปี่ยมด้วยเสน่ห์อันน่าหลงใหล  VERNIS À LÈVRES WATER GLOW LIQUID LIPSTICK  มีทั้งหมด 18 เฉดสี ที่ช่วยให้ Everyday look  ของสาวๆ ดูโดดเด่นชวนมอง ตอบโจทย์สำหรับทุกลุคทุกสไตล์

✔️ แพ็คเกจสวยหรู มีระดับ ใช้งานง่าย
ลิปสเตน  YSL VERNIS À LÈVRES WATER GLOW LIQUID LIPSTICK มาในขวดทรงเหลี่ยมโปร่งแสงและแวววาว สะท้อนถึงเนื้อลิปที่รังสรรค์ขึ้นบนริมฝีปาก มาพร้อมกับฝาสีโรสโกลด์สลักตราสัญลักษณ์อักษรย่อ YSL ซึ่งออกแบบโดยกาสซองดร์  เหมาะสำหรับพกพาติดตัวยามออกนอกบ้าน เพื่อสร้างห้วงเวลาแห่งความเปล่งประกายได้ทุกเมื่อที่ต้องการ

ถ้าท่านโปรดปรานความเปล่งประกายของลิปโกลว แต่เบื่อหน่ายความเหนียวเหนอหนะและความรู้สึกไม่สบายริมฝีปาก YSL Water Stain Glow คือลิปสเตนไอเท็มพิเศษที่พร้อมมอบความฉ่ำวาวในสัมผัสที่บางเบาไม่เหนียวเหนอะหนะให้กับริมฝีปากคุณ เป็นลิปสติกที่ใช้งานไม่ยาก ให้พิกเมนต์สีที่คมชัดแวววาวอย่างมีระดับ ปกปิดได้ดี ติดทานาน และพร้อมมอบความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปากของคุณ

ชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.yslbeautyth.com/ysl-vernis-a-levres-water-glow-liquid-lipstick.html

5


ปฏิเสธไม่ได้ว่า “โต๊ะ” คือ เฟอร์นิเจอร์หรืออุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่ทุกแห่งต้องมีเอาไว้ใช้งาน ไม่ใช่แค่ประโยชน์ในด้านการวางของเท่านั้น แต่ยังช่วยในเรื่องของการสร้างความเป็นระเบียบ ความสวยงาม กินความยังนำไปใช้ในเรื่องอื่นได้อีกไม่รู้จบ แต่คำถามที่หลายท่านสงสัยคือ อุปกรณ์ลักษณะนี้มีการนำเอาวัสดุมาผลิตหลากหลายมาก เพราะฉะนั้นจะเลือกซื้อเลือกหาชนิดไหนให้เหมาะกับตนเองก็ต้องเริ่มจากการรู้คุณสมบัติของวัสดุประเภทนั้นให้ดีเสียก่อน
1. ไม้แท้
เป็นวัสดุที่ได้จากธรรมชาติคือไม้แท้ ๆ ไม่มีการผสมสิ่งใดเพิ่มเติมเข้าไป ในอดีต ไม้สัก ถือเป็นประเภทไม้ที่ได้รับความนิยมสูงมาก เพราะว่ามีความแข็งแรง ทนทาน ไม่มีปัญหาเรื่องปลวก มอด แต่ปัจจุบันด้วยราคาที่สูง บวกกับกฎหมายที่ออกมา จึงทำให้ไม้แท้ที่ใช้เปลี่ยนเป็นประเภทอื่น อาทิ ไม้เต็ง, ไม้รัง, ไม้แดง, ไม้ยางพารา ซึ่งความแข็งแรงก็ยังคงเป็นจุดเด่น ตามด้วยลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ แต่อาจต้องระวังเรื่องน้ำ ความชื้น และปลวก มอด เอาไว้ด้วย

2. ไม้เทียม
คำว่าไม้เทียมจริง ๆ แล้วมีหลากหลายประเภทมากที่นำมาใช้ในการผลิต โต๊ะ ได้แก่ ไม้ MDF, ไม้อัด, ไม้ Partical ฯลฯ ต้องบอกว่าด้วยความที่ไม้ประเภทนี้มักใช้เศษไม้แล้วผสมกับวัสดุอื่น ๆ จึงทำให้คุณภาพที่ได้อาจไม่แข็งแรงเท่ากับไม้แท้ แต่ก็ยังพอมีลวดลายสวยงาม ใช้งานได้ดี ราคาประหยัด แต่ต้องระวังเรื่องน้ำ ความชื้น และการรับน้ำหนักของด้วยเหมือนกัน

3. เหล็ก
เป็นอีกวัสดุที่พบเห็นได้บ่อยทั้งการนำมาใช้ทำ โต๊ะอเนกประสงค์ และประเภทอื่น ๆ จุดเด่นคือ เหล็กจะมีความแข็งแรง ทนทาน รับน้ำหนักได้ดีมาก แต่ทั้งนี้อาจต้องระวังเรื่องของสนิมด้วย บวกกับราคาที่สูงเมื่อเทียบกับวัสดุอีกหลายประเภท จึงต้องเลือกซื้อเลือกหาให้ดี

4. สแตสเลส / อลูมิเนียม
เป็นส่วนผสมระหว่างเหล็กกับสารประกอบชนิดอื่น ๆ ที่จัดว่าได้รับความนิยมมาก ความพิเศษคือ มีน้ำหนักเบา สามารถเคลื่อนย้ายง่าย ไม่เป็นสนิม รับน้ำหนักได้ดี ราคาไม่แพงมาก จึงมีคนใช้งานเยอะ แต่ทั้งนี้ก็อาจต้องเลือกวัสดุที่มีคุณภาพ และได้มาตรฐานด้วย

5. พลาสติก
แน่นอนว่าความโดนเด่นของพลาสติกจะอยู่ที่เรื่องน้ำหนัก ขนย้ายสะดวก ราคาไม่แพง สร้างลวดลาย สีสันต่าง ๆ ได้เยอะ แต่การรองรับน้ำหนักจะสู้แบบอื่นไม่ได้ รวมถึงอายุการใช้งานมักสั้นกว่า จึงถูกนำมาใช้แบบชั่วคราว หรือใช้เป็นบางครั้ง อาทิเช่น โต๊ะพับ[ ใช้แล้วเก็บเข้าที่ เป็นต้น

ก่อนตกลงใจเลือกซื้อ โต๊ะ สักตัวเพื่อนำไปใช้งาน อย่าลืมพิจารณาว่าหลัก ๆ แล้วจะใช้ในเรื่องใดเป็นพิเศษ วางตรงไหน รองรับน้ำหนักเยอะหรือเปล่า เพื่อการใช้งานอันคุ้มค่าคุ้มราคา ยาวนาน ไม่ต้องเสียเงินเสียทองซื้อใหม่บ่อย ๆ นั่นเอง

สั่งซื้อสินค้าได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/FUR0905

6


การทำงานช่างในพื้นที่สูง อาทิเช่น งานหลังคา งานโครงสร้างชั้น 2 งานเสาไฟ เป็นต้น บ่อยครั้งเมื่อไม่สามารถปีนขึ้นไปยืนบนคานหรืออุปกรณ์รองรับน้ำหนักด้านบนได้ก็ต้องอาศัย “บันได” ที่มีในงานช่างไม่ว่าจะเป็นแบบพาด, ยืดหดได้, แบบสเต็ป หรือชนิดกันไฟ แต่ปัจจัยสำคัญในการใช้งานอุปกรณ์ชนิดนี้ทุกประเภทนั่นคือเรื่องความปลอดภัย เพราะอย่างที่รู้ว่าการทำงานบนที่สูงหากเกิดข้อผิดพลาดนั่นอาจหมายถึงความพิการหรือถึงแก่ชีวิตได้เลย
บันได ในงานช่าง ใช้ยังไงให้ปลอดภัยมากที่สุด
1. เลือกประเภทงานกับอุปกรณ์ที่ใช้ให้เหมาะสม
สิ่งแรกอันถือเป็นพื้นฐานที่จะช่วยให้เกิดความปลอดภัยนั่นคือ ต้องเลือกอุปกรณ์ที่ใช้กับงานนั้น ๆ ให้เหมาะสมมากที่สุด ดังเช่น แบบพาดควรใช้งานกับพื้นที่ที่สามารถพาดไปได้ด้วยความแข็งแรง อย่างเช่น กำแพง, ผนัง, แต่ถ้าเจองานที่ไม่มีพื้นที่สำหรับการพาดก็เปลี่ยนเป็นแบบยืดหดได้ เป็นต้น การเลือกใช้งานอย่างถูกประเภทจะช่วยลดความอันตรายลงได้เยอะมาก

2. มีการตรวจเช็คก่อนใช้งานทุกครั้ง
ไม่ว่าจะ บันไดเหล็ก สแตนเลส อลูมิเนียม ไม้ หรือวัสดุประเภทใดก็ตาม ก่อนใช้งานทุกครั้งต้องตรวจสอบคุณภาพเสมอว่าไม่มีปัญหาเรื่องความเสียหาย รอยร้าว การบิดงอ ฯลฯ เนื่องมาจากอย่าลืมว่าเมื่อตัวบุคคลขึ้นไปยืนแล้วจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นกว่าเดิม หากตัวอุปกรณ์รับน้ำหนักไม่ไหว หรือมีรอยชำรุดอยู่แล้วอาจทำให้เกิดผลเสียตามมาในแบบคาดไม่ถึงก็ได้

3.  ไม่ใช้งานเกินความสามารถของอุปกรณ์
นี่เป็นอีกเรื่องที่หลายท่านมักลืมและคิดว่าอุปกรณ์ประเภทนี้แบบไหนก็เหมือน ๆ กัน ทว่าในความเป็นจริงทุกอย่างย่อมมีขีดจำกัดในการทำงาของตนเองอยู่แล้ว ตัวอย่างง่าย ๆ คือ บันไดอลูมิเนียม จะเหมาะกับการรับน้ำหนักไม่เกิน 150 กก. สมมุติว่าน้ำหนักของคนที่ขึ้นไปอยู่ที่ 100 กก. ก็ไม่มีควรมีการแบกของใด ๆ เพิ่มเติม หรือมีการปีนขึ้นไปอีกคนด้วยน้ำหนักที่เกินกว่า 50 กิโลกรัม เนื่องจากมีโอกาสที่บันไดจะรับน้ำหนักไม่ไหวจนพังถล่มลงมาได้เลย

4. ป้องกันตัวเองทุกครั้งเมื่อต้องใช้งาน
ท้ายที่สุดไม่มีใครระวังอันตรายได้มากกว่าตนเอง ทุกครั้งที่ต้องใช้งานให้มีอุปกรณ์เซฟตี้เพื่อป้องกันเอาไว้ก่อนเสมอ งานชิ้นไหนเสี่ยงก็ต้องประเมินให้ดีว่าควรทำหรือไม่ มีอุปกรณ์ป้องกันใด ๆ เพิ่มเติมบ้าง ลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับตัวเอง

ด้วยความที่ บันได ในงานช่างคือสิ่งสำคัญมาก ๆ แต่การจะเลือกใช้ไม่ใช่ว่าแค่มีฝีมือในงานช่างก็ทำได้ แต่ควรรู้ถึงการดูแลความปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดเรื่องเศร้าเมื่อต้องใช้งาน

ชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/TOO09

7

ไฟฟ้าและแสงสว่างถือเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินชีวิตโดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืน ในอดีตเองก็มีการใช้งาน หลอดไฟ หลากหลายประเภทขึ้นอยู่กับการเลือกของแต่ละท่าน แต่ทว่าเมื่อมีนวัตกรรมใหม่ ๆ เกิดขึ้นสิ่งเหล่านี้ย่อมพัฒนาเป็นเรื่องปกติ ซึ่งหลาย ๆ คนอาจมีข้อสงสัยว่าแล้วบรรดาหลอดประเภท LED ทำไมถึงได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ลองมาดูสาเหตุทั้ง 5 ข้อนี้ที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจใช้งานง่ายขึ้นกว่าเดิม
จุดเด่นของการเลือกใช้งาน หลอดไฟ แบบ LED
1. ประหยัดไฟมากกว่าหลายเท่า
ทราบหรือเปล่าว่าการเลือกใช้ หลอด LED สามารถประหยัดค่าไฟได้มากกว่าหลอดฟลูออเรสเซนส์ปกติถึง 75% ยิ่งเปลี่ยนมาใช้งานมากเท่าไหร่ ค่าไฟในบ้านของคุณก็จะประหยัดมากขึ้นเท่านั้น หรือถ้าเป็นออฟฟิศ โรงงาน คลังสินค้าต่าง ๆ การใช้หลอดไฟชนิดนี้จะประหยัดต้นทุนได้เยอะมาก มีเงินเหลือสำหรับด้านอื่น ๆ อีกเพียบ

2. มีอายุการใช้งานยาวนาน
ปกติหลอดประเภท LED แบบนี้มีอายุเฉลี่ยในการใช้งานราว 50,000 - 60,000 ชั่วโมง หากยังเทียบไม่เห็นภาพชัดเจน สมมุติว่าใน 1 วัน มีการเปิดไฟเพื่อใช้งานราว 8-10 ชั่วโมง เท่ากับหลอดประเภท LED 1 หลอด จะมีอายุการใช้งานประมาณ 10 ปี กันเลยทีเดียว ถือเป็นการลงทุนอันแสนคุ้มค่าสุด ๆ ไม่ต้องเสียเงินเสียทองเปลี่ยนใหม่บ่อย ๆ

3. ทนทานต่อสภาพแวดล้อม
เป็นเรื่องปกติเวลาที่ใช้งานสิ่งไหนไปนาน ๆ ย่อมเกิดการเสื่อมสภาพตามกาลเวลา ทว่าหลอดประเภทนี้จะมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมภายนอกได้เป็นอย่างดี เช่น เกิดการสั่นสะเทือนบ่อย ๆ, มีการกัดกร่อนจากสารบางชนิด ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะว่ายังใช้งานได้ตามอายุปกติ

4. ให้ความสบายตา ไม่รู้สึกแสบเวลาใช้งานนาน ๆ
หากสังเกตดี ๆ คนที่เคยใช้หลอดฟลูออเรสเซนส์ ถ้าหากจ้องกับหน้าคอมพิวเตอร์หรือดูTVนาน ๆ มักรู้สึกแสบตากับแสงไฟ แต่เมื่อเปลี่ยนมาใช้ หลอดไฟ LED ปัญหานี้จะหมดไป เพราะเป็นหลอดที่แทบมองไม่เห็นการกระพริบ และค่าอุณหภูมิสีก็สูงตั้งแต่ระดับ 3,000 - 6,500 Kelvin เป็นผลให้แสงที่ออกมาจากหลอดไม่ทำร้ายสายตา ในทางกลับกันยังรู้สึกสบายตามากขึ้น จะทำงานหรืออ่านหนังสือก็เป็นมิตรกับดวงตาสุด ๆ

5. ไม่มีสารอันตรายต่อร่างกาย
นอกจากเรื่องของอุณหภูมิสีแล้ว หลอดจำพวกนี้ยังไม่มีบรรดาสารปรอท โลหะหนัก รวมถึงรังสียูวีที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย จึงสามารถใช้งานได้แบบไร้กังวลไปเลย

หากบ้านไหนยังคงใช้งาน หลอดไฟ แบบเดิม ๆ อยู่ลองเปลี่ยนมาเป็นแบบ LED รับรองว่าจะช่วยให้เกิดสิ่งดี ๆ ตามมาอีกเยอะมาก ทั้งด้านการใช้งานและด้านสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ดี ๆ ที่ควรมีไว้

ชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/LIG0406

8


เพื่อสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อยให้กับบ้านหรือทุกพื้นที่ไม่ว่าออฟฟิศ, โรงงาน ฯลฯ การมี  “ตู้เก็บของ” จะช่วยให้สิ่งต่าง ๆ ไม่กระจัดกระจาย ช่วยให้เกิดความสวยงาม หยิบค้นหาได้สะดวก ซึ่งปัจจุบันเฟอร์นิเจอร์ชนิดนี้ก็มีการออกแบบที่หลากหลายเพื่อให้เหมาะสำหรับการใช้งานของแต่ละคน ลองมาดูกันว่าจุดเด่นที่น่าสนใจของแต่ละชนิดมีอะไรบ้าง ช่วยให้การพิจารณาเลือกซื้อเลือกหาเป็นเรื่องง่ายขึ้นกว่าเดิม
จุดเด่นของ ตู้เก็บของ แต่ละประเภท
1. ตู้ลิ้นชัก
เป็นลักษณะของตู้ที่มีลิ้นชักแบ่งออกเป็นชั้น ๆ เวลาเปิดใช้งานจะสะดวกเพราะดึงออกมาทีละชั้นได้ ไม่ทำให้สิ่งของร่วงหล่นลงมา และยังช่วยให้การเก็บของแยกออกจากกันแบบชัดเจน ซึ่งจำนวนลิ้นชักก็ขึ้นอยู่กับการออกแบบ อย่างเช่น 3 ลิ้นชัก, 4 ลิ้นชัก, 8 ลิ้นชัก ฯลฯ

2. ตู้บานเปิด
เป็นตู้ที่จะมีประตูเพื่อเปิดออกมา ส่วนมากจะทำให้มีขนาดกว้างเพื่อบรรจุของได้เยอะ อีกทั้งยังป้องกันฝุ่นละอองจากภายนอกได้อย่างดี จึงเป็นตู้อีกประเภทที่ได้รับความนิยม ทั้งนี้จะเหมาะกับพื้นที่มีขนาดกว้างเพียงพอสำหรับการเปิดประตูออก

3. ตู้หน้าโล่ง
เป็นอีกประเภทของตู้ที่อาจเรียกว่า  ตู้วางของ ก็ได้ เนื่องจากลักษณะของตู้จะไม่มีประตูปิดด้านหน้า จึงเหมาะสำหรับการวางโชว์ของต่าง ๆ รวมถึงยังสะดวกต่อการหยิบใช้งาน ช่วยประหยัดพื้นที่เนื่องจากไม่ต้องเผื่อสำหรับการเปิด ทั้งนี้ต้องระวังเรื่องสิ่งของที่จะตกหล่นลงมาเสียหาย หากเป็นของสำคัญหรือของที่แตกหักง่ายจึงมักไม่ค่อยนำไปวางสักเท่าไหร่นัก

4. ตู้บานผสม
อีกประเภทของตู้ที่พบเห็นกันได้บ่อยนั่นคือ การเป็นตู้แบบบานผสม หมายถึง มีบางส่วนที่เป็นแบบหน้าโล่ง กับอีกบางส่วนที่เป็นบานเปิดหรือเป็นลิ้นชักขึ้นอยู่กับการดีไซน์ จุดเด่นของตู้ชนิดนี้คือให้ดีไซน์ที่สวยงาม รวมทั้งยังใช้งานได้อย่างหลากหลาย ของชิ้นไหนที่หยิบใช้บ่อย ๆ อาจวางไว้ตรงพื้นที่หน้าโล่ง แต่ชิ้นใดที่ต้องเก็บให้มิดชิดหรือไม่ได้ใช้งานบ่อยนักก็เก็บไว้ตรงบานประตูก็ได้เช่นกัน

5. ตู้แบบแขวนผนัง
ตู้ประเภทนี้จะมีดีไซน์ได้หลากหลายทั้งชนิดบานเปิด หน้าโล่ง แต่จุดเด่นคือ จะช่วยประหยัดพื้นที่ใช้สอยได้เยอะมาก เนื่องด้วยใช้การติดตั้งด้วยวิธีแขวนลอย พื้นที่ด้านล่างจึงเหลือทำประโยชน์อื่น ๆ

6. ตู้บานกระจก
ปิดท้ายด้วยตู้บานกระจก ส่วนใหญ่จะเป็นแบบบานเปิดแต่ใช้กระจกแทนวัสดุประเภทอื่น เพิ่มความหรูหราให้กับตัวตู้มากขึ้น อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่มองหา  ตู้เก็บรองเท้า ก็จะเลือกได้หลากหลายขึ้นอยู่กับความชอบ และดีไซน์ รวมทั้งการใช้งานว่าถี่ขนาดไหน เพราะฉะนั้นใครที่จะใช้งาน  ตู้เก็บของ อย่าลืมเลือกให้เหมาะกับตนเองเพื่อประโยชน์สูงสุดด้วย

เข้าชมเว็บไซต์ได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/FUR0902

หน้า: [1] 2 3 ... 33

 เว็บที่น่าสนใจ  :  หัวเชื้อน้ำยาล้างตะกรัน   หัวเชื้อน้ำยาล้างแอร์   จาระบีอุตสาหกรรม   เช่าโฮสติ้ง  เสื้อผ้าเด็กอ่อน  ขายส่งกลูต้าไธโอนแบบฉีด  
ติดต่อลงโฆษณา