ยินดีต้อนรับสู่เว็บประกาศฟรี www.fieldcircus.com

"เว็บไซต์นี้เป็นเพียงสื่อกลางในการประกาศ ซื้อ/ขาย ทางเว็บจะไม่รับผิดชอบใดๆต่อการติดต่อ ซื้อ/ขาย ของท่านทุกรายการ โปรดพิจารณาความเหมาะสมก่อนการ ซื้อ/ขาย"

เสื้อผ้าเด็กอ่อน,เสื้อผ้าเด็กแรกเกิด,บอดี้สูทเด็ก  สเปรย์ล้างโซ่ สเปรย์หล่อลื่นโซ่  ติดตั้งกล้องวงจรปิด        

 

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - dsmol19

หน้า: 1 ... 231 232 [233] 234 235 ... 240
3482
https://www.seonatchai.com/
รับสอน SEO บริการ SEO - บริการ SEO ,สอน SEO ,Google Ads รับทำเว็บไซต์ตามแบบ | SEONATCHAI

3483
บอร์ด EP ไฟเขียวทุ่มเงินลงทุนกว่า 1,885 ล้านบาท ส่ง E-COGEN ถือหุ้นเพิ่มใน 2 โรงไฟฟ้าโคเจนฯ ผ่านการซื้อหุ้นสามัญของ TAC จาก CHUBU ดันสัดส่วนถือหุ้นทั้งทางตรง-ทางอ้อมเต็ม 100% ใน SSUT และ 74.5% ใน PPTC บิ๊กบอส “ยุทธ ชินสุภัคกุล” มั่นใจรายได้ขายไฟ-ไอน้ำพุ่งกระฉูด กำไรเติบโตอย่างมั่นคง

นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (EP) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้บริษัท อีสเทอร์น โคเจนเนอเรชั่น จำกัด (E-COGEN) เข้าทำรายการซื้อหุ้นสามัญของบริษัท แทค เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (TAC) จำนวนทั้งสิ้น 9,472,400 หุ้น (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100.00 บาท) คิดเป็นสัดส่วน 47.60% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่ชำระแล้วของ TAC จากบริษัท ชูบุ อีเล็คทริค เพาเวอร์ ไทยแลนด์ เอสพีพี บี.วี. จำกัด (CHUBU หรือ “ผู้ขาย”) ในราคาหุ้นละ 199.00 บาท เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 1,885,007,600.00 บาท

ทั้งนี้ ภายหลังการเข้าทำรายการ บริษัทฯ จะมีสัดส่วนการถือหุ้นโดยตรง และโดยอ้อมในบริษัท พีพีทีซี จำกัด (PPTC) และบริษัท เอสเอสยูที จำกัด (SSUT) ผ่าน E-COGEN ดังนี้ (1) ถือหุ้นใน PPTC ถือโดยอ้อมผ่าน TAC ในสัดส่วน 50.00% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว ถือโดยตรง 24.50% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว รวมเป็นการถือหุ้นใน PPTC ทั้งสิ้น 74.50% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว (2) ถือหุ้นใน SSUT ถือโดยอ้อมผ่าน TAC ในสัดส่วน 40.00% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว ถือโดยอ้อมผ่านบริษัท ทัศน์ศิริ จำกัด (THAT SIRI) 20.00% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว ถือโดยตรง 40.00% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว รวมเป็นการถือหุ้นใน SSUT ทั้งสิ้น 100.00% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว

สำหรับผลประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดกับบริษัทฯ เพื่อเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในการดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก ระบบพลังงานความร้อนร่วม (Cogeneration) คือ PPTC และ SSUT โดยบริษัทฯ จะมีอำนาจควบคุมใน TAC เพิ่มขึ้นเป็น 100% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว ทำให้มีอำนาจในการบริหารจัดการทั้งหมดใน SSUT และมีสัดส่วนการถือหุ้นใน PPTC เพิ่มขึ้นเป็น 74.50% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว

“การเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก ระบบพลังงานความร่วมทั้ง 2 แห่ง ขนาดกำลังการผลิต 360 เมกะวัตต์ ในครั้งนี้ เป็นการขยายการลงทุนในธุรกิจเดิมที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์อยู่แล้ว ส่งผลให้บริษัทฯ จะมีรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำเพิ่มขึ้น เพื่อส่งเสริมให้บริษัทฯ มีกำไรมั่นคงและต่อเนื่องในอนาคต” นายยุทธกล่าวในที่สุด
 

3485
หลังจากธุรกิจโรงภาพยนตร์ถูกปิดมานานกว่า 5 เดือน ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน เม.ย. 2564 เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 เกิดการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงระลอกที่ 3 ล่าสุด ทางศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ได้มีมติผ่อนคลายมาตรการให้โรงภาพยนตร์กลับมาเปิดได้ภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป

การกลับมาของโรงภาพยนตร์จะเป็นไปตามมาตรการควบคุมเข้มงวดขั้นสูงสุด COVID Free Setting เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ภายใต้เงื่อนไข โรงภาพยนต์เปิดให้บริการได้ถึง 3 ทุ่ม จำกัดผู้ชม 50% ของจำนวนที่นั่งทั้งหมด ต้องนั่งที่เว้นที่ สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และห้ามรับประทานอาหารระหว่างรับชมภาพยนตร์

สำหรับธุรกิจโรงภาพยนตร์โดนพิษโควิด-19 เล่นงานแสนสาหัส  “บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)” หรือ “เมเจอร์”  ขาดทุนครั้งแรกในรอบ 20 กว่าปีขาดทุนต่อเนื่องมาแล้ว 6 ไตรมาส ซึ่งก่อนหน้านี้ เมเจอร์ฯ ปักหมุด ปี 2563 เป็นปีทอง เพราะรายได้ในช่วงที่ผ่านมาต่างเติบโตทุกปี สะท้อนจากยอดขายตั๋วชมภาพยนตร์ ปี 2560 ขายได้ 29.5 ล้านใบ, ปี 2561 ขายได้ 33 ล้านใบ และปี 2562 ขายได้ 36.5 ล้านใบ ดังนั้นปีนี้ 2563 ประเมินว่าจะสามารถทำได้ 40 ล้านใบได้ไม่ยาก แต่กลับเกิดการแพ่ระบาดโควิด-19

อย่างไรก็ตาม การกลับมาเปิดบริการรอบนี้ เมเจอร์ หวังพลิกโกยกำไร โดยปรับกระบวนทัพโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ประกาศ  Business Model ใหม่ด้วยกลยุทธ์ “3T” เพื่อผลักดันให้การเติบโตให้กลับมาโตแบบ “V Shape” ประกอบด้วย

1. Thai Movie ขยายการลงทุนในภาพยนตร์ไทย ซึ่งเมเจอร์มีฐานธุรกิจด้าน Content Provider ด้วยการร่วมทุนสร้างภาพยนตร์อยู่แล้ว และคอนเทนต์เหล่านี้สามารถนำมาต่อยอดขายในแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งได้ ซึ่งทั้งสองช่องทางจะทำให้เมเจอร์มีฐานรายได้จากส่วนแบ่งกำไรในฐานะผู้สร้าง ซึ่งจะเข้ามาเสริมรายได้หลักจากการขยายตั๋วชมภาพยนตร์ โดยปี2564 จะผลิตภาพยนตร์ไทยเพิ่มขึ้นเป็น 20 กว่าเรื่อง จาก 6 ค่ายจากที่ผ่านมาผลิตปีละ 10–12 เรื่อง

2. Technology ขับเคลื่อนด้วยนโยบาย Major 5.0 เพื่อยกระดับองค์กรสู่ “Total Digital Organization” จะลงทุนไม่ต่ำกว่า 100–200 ล้านบาท ในการนำเทคโนโลยีเข้ามาตอบโจทย์บริการแบบไร้สัมผัส เช่น การนำตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ E Ticket พัฒนาขึ้นมาใช้เป็นรายแรก และเตรียมต่อยอดสู่การเป็น Seamless Ticket ด้วยการซื้อตั๋วผ่านแอปพลิเคชั่น และนำมาสแกนที่ตู้เพื่อเข้าชมภาพยนตร์ได้ทันที

พัฒนาบัตรเงินสด M Cash เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงการชมภาพยนตร์ได้ง่ายขึ้น โดยเปิดขายตั๋วผ่านพาร์ทเนอร์ ทุกธนาคาร และระบบ Payment ต่างๆ พร้อมกับยกระดับแอปพลิเคชันเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ให้เป็น Super App เพื่อเป็นช่องทางขายตั๋วผ่าน Mobile Ticketing 100% ทั้งนี้เพื่อปรับสู่ Cashless ทั้งระบบรวมถึงนำระบบ AI & ML ในลักษณะ Movie Recommendation Engine เข้ามาพัฒนาโปรโมชั่นที่ตรงในแบบ Personalization หรือ One-on-One Offering เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมลูกค้าที่แตกต่างกัน เป็นต้น

3. Trading หลังจากทดลองจำหน่ายป๊อปคอร์นในช่องทาง Delivery ในงานอีเว้นท์และมาร์เก็ตเพลสอย่างช้อปปี้ ทำให้ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ มองถึงการข้ามไลน์เข้าสู่ค้าปลีก ด้วยการเปิดตัว “ป๊อปคอร์น พรีเมียม POPSTAR” 3 รูปแบบคือ แบบซอง, แบบเข้าไมโครเวฟ, และป๊อปคอร์นบรรจุกระป๋อง โดยจะจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรด ที่ผ่านมาสัดส่วนรายได้จากป๊อปคอร์นมีกว่า 30% จากรายได้รวมของเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ โดยปี 2562 มียอดขาย 2,000 กว่าล้านบาท จากช่องทางเดียวคือโรงภาพยนตร์ 172 สาขา

การกลับมาของโรงภาพยนต์ในเครือเมเจอร์ฯ จะดึดดูดผู้ชมด้วยหนังใหม่เตรียมลงโรงฉายอีกหลายเรื่อง เช่น No Time to Die ซึ่งถือเป็นการอำลาบทสายลับ “เจมส์ บอนด์ 007” ของ “แดเนียล เครก”, Dune, Spider-man : No way Home ส่วนหนังไทยมีหลายเรื่องเช่นกันที่จ่อลงโรงส่งท้ายปี เช่น ร่างทรง, ส้มป่อย ผู้บ่าวไทบ้าน อีสานจ้วด, มนต์รักวัวชน, อโยธยา มหาละลวย ฯลฯ

อีกทั้ง ปลายปีจะมีหนังฟอร์มยักษ์ซึ่งฉายในต่างประเทศไปแล้วก่อนหน้านี้ เช่น Fast & Furious 9, Black Widow, The Suicide Squad 2, Jungle Cruise และ Shang-Chi and The Legend of The Ten Rings ที่โกยรายได้ติดอันดับ 1 Box Office เป็นต้น

โดยเปิดบริการเต็มรูปแบบภายใต้มาตรการสาธรณสุขปแบบ พนักงานทุกคนฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแและต้องตรวจ ATK ก่อนเริ่มงาน มีการตรวจวัดอุณหภูมิและล้างมือด้วยแอลกอฮลล์ก่อนใช้บริการ ภายโรงหนังจะจัดที่นั่งเว้นระยะห่าง 2 ที่นั่ง เว้น 2 ที่นั่ง ระหว่างแถวจัดที่นั่งแบบสลับฟันปลา มีการอบโอโซนในโรงหนังทั้งก่อนและหลังบริการ พร้อมทั้งปรับเป็นโรงภาพยนตร์แบบไร้เงินสดเต็มรูปแบบ นำร่องให้บริการซื้อและชำระค่าบัตรชมภาพยนตร์แบบไร้เงินสดทุกสาขาใน กทม. และปริมณฑล ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2564 เป็นต้นไป

สำหรับเบอร์รองในธุรกิจโรงภาพยนตร์  “บริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)” หรือ “เอส เอฟ ซีเนม่า”  
ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงเดือน เม.ย. 2564 เช่นเดียวกันนั้น น.ส. พิมสิริ ทองร่มโพธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่าโรงหนังเป็นธุรกิจกลุ่มแรกๆ ที่ต้องหยุดให้บริการ และมักจะเป็นกลุ่มสุดท้ายที่ได้รับอนุญาตให้เปิดอยู่เสมอ แม้ที่ผ่านมาจะไม่เคยมีคลัสเตอร์ที่เกิดขึ้นจากโรงหนัง

อย่างไรก็ตาม การกลับมาเปิดโรงภาพยนตร์เสิร์ฟหนังฟอร์มยักษ์เต็มอิ่มเช่นเดียวกัน และในแต่ละสัปดาห์มีหนังใหญ่รอเข้าโรงเกือบจะทุกสัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็น Black Widow, The Suicide Squad, No Time To Die, Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings, Fast & Furious 9, Eternals, Venom: Let There Be Carnage, The Matrix 4, Spider-Man: No Way Home, The King's Man รวมทั้ง โปรโมชั่นจากเอสเอฟและพาร์ทเนอร์แบบจัดเต็ม เป็นการต้อนรับทุกคนกลับสู่โรงหนังอีกครั้ง

ภายใต้คอนเซ็ปต์ Keep Caring, Keep Entertaining มอบความห่วงใย เพื่อให้ลูกค้ามีความมั่นใจ ปลอดภัย และมีความสุข ชูมาตรการด้านสาธารณสุขของโรงภาพยนตร์ในเครือ เอส เอฟ เตรียมความพร้อมด้านพนักงานที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว รวมถึงมีการตรวจคัดกรองด้วย Antigen Test Kit ก่อนเริ่มปฏิบัติงาน และในส่วนของโรงภาพยนตร์ได้รับการประเมินผ่านมาตรฐาน THAI STOP COVID PLUS (TSC+) ของกรมอนามัย พร้อมทั้งได้ติดตั้งอุปกรณ์หลอด UVC ภายในระบบปรับอากาศ และอบ Ozone เพื่อฆ่าเชื้อโรคภายในโรงภาพยนตร์ทั้งหมด นอกจากนี้ มีการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศฆ่าเชื้อโรค

สำหรับกลยุทธ์ของ เอส เอฟ คือการสร้างความแตกต่าง เพื่อสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ในการชมภาพยนตร์ ขนานไปกับการใช้การตลาดแบบ Naming Sponsor เช่น Emprive Cineclub, CAT First Class Cinema, MasterCard Cinema, Zigma CineStadium, Happiness Cinema และ MX4D ซึ่งจะตอบโจทย์แบบ win-win ทั้งผู้ให้บริการ ผู้ใช้บริการ และพันธมิตร

อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ว่าโรงภาพยนตร์จะล้มตายไปภายใน 5 ปี หลังสถานการณ์โควิด – 19 แต่ในสายตาผู้ประกอบการธุรกิจโรงภาพยนตร์มองต่างออกไป  นายสุวัฒน์ ทองร่มโพธิ์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ในประเด็นนี้ไว้ว่าธุรกิจโรงภาพยนต์มอบประสบการณ์ที่แตกต่าง อย่างในอดีตเราผ่านยุคเทปผีซีดีเถื่อน โหลดหนังเถื่อนดูฟรี หรือเว็บดูหนังเถื่อนดูฟรีออนไลน์ แต่โรงภาพยนต์ก็ยังได้รับความนิยมเสมอมา มาถึงในยุคนี้แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเป็นกระแสใหม่ เสียค่าบริการรายเดือนรับชมคอนเทนต์หนังซีรีย์มากมาย แต่ความรู้สึกการรับชมแต่ต่างจากโรงภาพยนต์ที่เป็น Out of Home เปรียบเทียบกันไม่ได้เป็น Business Model ที่ต่างกัน อีกอย่าง สตรีมมิ่งดูไม่ดูก็ต้องจ่าย แต่โรงภาพยนตร์อยากดูค่อยจ่าย ซึ่งผู้สร้างรายใหญ่เองให้ความสำคัญกับการฉายในโรงภาพยนตร์เป็นลำดับแรก โดยเฉพาะกับหนังฟอร์มยักษ์ ต้องอาศัยระบบภาพและเสียง ที่ช่วยให้คอนเทนต์สมบูรณ์แบบกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ

 การรับชมในโรงภาพยนตร์เป็น Cinematic Experience เป็นสิ่งที่สตรีมมิ่งให้ไม่ได้ในปัจจุบัน แน่นอนว่า คุณภาพของภาพยนตร์ทั้งภาพและเสียงของสตรีมมิ่งขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ของแต่บ้าน ขณะที่โรงภาพยนตร์มีอุปกรณ์คุณภาพสูงราคาแพง พร้อมมอบประสบการณ์และสุนทรียภาพที่ดีที่สุดในการรับชม อย่างไรเสียการบรรยากาศในโรงหนังได้อรรถรสมากกว่า 


X


อย่างไรก็ตาม แม้โรงหนังกลับมาเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ แม้จะถวิลหาบรรยากาศในโรงภาพยนต์เพียงใด แต่ด้วยสถานการณ์การพร่ระบาดโควิด-19 ก็เป็นปัจจัยหยุดยั้งพฤติกรรมผู้บริโภคเอาไว้ ตลอดจนคอนเทนต์หนังและซีรีย์ใหม่ๆ มีให้เลือกรับชมผ่านแพลทฟอร์มออนไลน์สตรีมมิ่งต่างๆ มากมาย

 สถิติปี 2562 ที่คนไทยใช้บริการวิดีโอสตรีมมิ่ง (Streaming) แบบบอกรับสมาชิก 1.33 ล้านราย ปี 2563 ที่ เพิ่มเป็น 1.52 ล้านราย และยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ 

เริ่มตั้งแต่  Netflix ผู้ครองตลาดโลกด้วยจำนวนสมาชิก (subscription) กว่า 195 ล้านรายทั่วโลก และเป็นผู้นำในตลาดสตรีมมิ่งไทย คอนเทนต์ที่มีความหลากหลายทั้งใหม่และเก่า ออริจินัลคอนเทนต์ที่ดูได้แค่ในเน็ตฟลิกซ์ รวมถึง กลยุทธ์แบบ Think Local for Global สร้างคอนเทนต์ท้องถิ่นออกไปสู่สายตาของผู้ชมทั่วโลก

หรือสตรีมมิ่งน้องใหม่มาแรงอย่าง  Disney+ ที่มีคอนเทนต์ออริจินอลของดิสนีย์ มีภาพยนตร์และซีรีส์กว่า 700 เรื่อง จาก Pixar, Marvel, Star Wars, National Geographic ฯลฯ นอกจากนี้ยังมี VIU สตรีมมิ่งผู้ครองตลาดซีรีส์เกาหลี รวมถึง WeTV และ iQIYI กับคอนเทนต์ซีรี่ย์จีนมากมาย

นอกจากนี้ รอบปีที่ผ่านอุตสาหกรรมภาพยนตร์เคลื่อนไหวอย่างน่าจับตา มีการฉายภาพยนตร์บนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งพร้อมกับโรงภาพยนตร์มากขึ้น หรือฉายบนแฟลตฟอร์มสตรีมมิ่งอย่างเดียวก็มีให้เห็นกันบ้างแล้ว

 แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า Cinematic Experience หรือ ประสบการณ์การดูหนัง การรับชมในโรงภาพยนตร์เติมเต็มอรรถรสได้มากกว่า 
 

3487
YSL ROUGE PUR COUTURE THE SLIM VELVET RADICAL ลิปแมตต์เนื้อลิควิด จาก YSLลิปสติกที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับความสวยหรู ด้วยแรงผลักดันจากห้องเสื้อแฟชั่นชั้นสูงที่หลงใหลในเสน่ห์ของผ้ากำมะหยี่ สิ่งทอที่นำสมัยเหนือกาลเวลา ด้วยสีสันที่เจิดจ้า นุ่มนวลและก็เงางามยามต้องแสง กำมะหยี่เป็นสัญลักษณ์แห่งการทอดผ่านเส้นแบ่งระหว่างความหรูหราโอ่อ่าและอิสระในการคิด เฉกเช่นหญิงสาวที่เรียบโก้ แต่ทว่ารักในอิสระ สะดุดตาแล้วก็น่าสนใจ

ความโดดเด่นของลิปสติก YSL ROUGE PUR COUTURE THE SLIM VELVET RADICAL
  • ลิปเนื้อแมตต์ที่มีความเงา ไม่วาว ไม่แห้ง หรูหราราวเนื้อผ้ากำมะหยี่
    สำหรับผู้หญิงที่ชื่นชอบในความแมตต์และก็ความชัดแน่นของพิกเมนต์สีแบบลิปสเตน แต่ยังคงถูกใจสัมผัสที่เนียนนุ่ม แสงเงาที่ดูเรียบโก้ในแบบลิปลิควิด The Slim Velvet Radical เป็นลิปสติกที่ประสานความแมตต์กับความเงางาม (แต่ไม่แวววาว) เรียบลื่น ดุจกำมะหยี่อย่างลงตัว เป็นลิปที่ให้ผิวสัมผัสในการใช้งานเสมือนลิปกำมะหยี่ เม็ดสีมีความแน่น ให้สีชัด สามารถกลบสีปากรอยหมองคล้ำของริมฝีปากได้มิด ทำให้ท่านสามารถแต่งสีริมฝีปากให้มีความสวยสดงดงามได้อย่างใจ โดยยังคงรู้สึกสบายปาก ไม่หนาหรือหนักจนเกินไป

  • พร้อมบำรุงริมฝีปากอย่างอ่อนโยน
    นอกเหนือจากให้สีสันที่สวยงามแก่เรียวปากแล้ว ROUGE PUR COUTURE THE SLIM VELVET RADICAL ยังมาพร้อมคุณสมบัติในการฟื้นบำรุงผิวปากให้เนียนนุ่ม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของลิปสติกของแบรนด์ อีฟส์ แซ็งต์ โลร็อง โบเต้ เป็นที่ชื่นชอบจนทำให้ผู้ใช้จำเป็นต้องกลับมาซื้อหรือที่เรียกว่าเป็นแฟนพันธ์แท้ เพราะเป็นลิปสติกที่ผสานสารบำรุง ก็เลยเป็นลิปแมตต์เนื้อลิควิดที่ทำให้ริมฝีปากเนียนนุ่มรวมทั้งชุ่มชื่นอยู่ตลอด

  • วิธีการใช้ลิปสติก Rouge Pur Couture The Slim Velvet Radical
    YSL ROUGE PUR COUTURE THE SLIM VELVET RADICAL มาในบรรจุภัณฑ์รูปแบบใหม่ เป็นแท่งสี่เหลี่ยมซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับลิปสติก ในซีรีส์ The Slim เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานที่เข้ากับเรียวปากได้ดี วิธีการใช้ลิปสติกในรุ่นนี้ให้ได้ดั่งใจ เริ่มต้นด้วยการหมุนลิปขึ้นราวๆ ½ นิ้ว ใช้จุดสูงของตัวลิปสติกรูปสี่เหลี่ยมวางบนกระจับริมฝีปากบน และทาโดยเริ่มจากตรงกลางริมฝีปากออกไป ต่อจากนั้นเติมริมฝีปากล่างโดยวางลิปไว้ที่ด้านใดด้านหนึ่ง ลิปสติกสี่เหลี่ยมช่วยให้ทาได้อย่างง่าย สะดวก และสามารถควบคุมได้ดี

ลิปสติก YSL ถูกสร้างสรรค์มาเพื่อให้ผู้หญิงทุกคนได้เลือกเติมแต่งสีสันที่ดีเยี่ยมที่สุดให้แก่ตัวเอง เฉดสีแต่ละเฉดของลิปสติกพร้อมเติมเต็มความมั่นใจของคุณที่เต็มเปี่ยมด้วยเสน่ห์อันน่าหลงใหล ทั้งนี้ YSL ROUGE PUR COUTURE THE SLIM VELVET RADICAL มีทั้งหมด 9 เฉดสีให้พวกเราได้เลือกสรร หากคุณหลงใหลในความแมตต์และต้องการเอฟเฟกต์ด้านเนื้อสัมผัสแบบกำมะหยี่ควบคู่กันไปด้วย ทุกเฉดสีจาก THE SLIM VELVET RADICAL ถูกออกแบบมาเพื่อคุณ

3488
ตารางวาละ 13,500บาท(ต่อรองลงได้)
แบ่งขาย 100-200 ตรวต่อแปลง
ติดต่อ:โทร.088.891.9289 K.กิตติ
089.150.7411 K.เดช

ขายที่ดินอยู่ในซอยรีสอร์ทเก็บตะวันติดหมู่บ้านเทวีโฮม บ้านฉาง จ.ระยอง
 

เนื้อที่แบ่งขาย 100-200 ตรวต่อแปลง

ตารางวาละ 13,500บาท(ต่อรองลงได้)
*มีไฟฟ้า มีประปาพร้อม
*โฉนดลอย เจ้าของขายเอง ราคาถูก ซื้อเก็บไว้กำไรล้านเปอเซนต์
*5 นาที จากถนนมอเตอร์เวย์
*5 นาที ถึงชายหาดพลา
*4 นาที สถานีอนามัยพลา
*15นาทีสนามบินอู่ตะเภา
*10นาที รพ.สิริกิติ์
*10นาที โลตัสตลาดกม.10
*3นาที สนามกอล์ฟอีสเทิร์นสตาร์
*5นาที โรงเรียน การ์เด้นท์ อินเตอร์
*7นาที รร.สองภาษาอินเตอร์
*พื้นที่สะอาด ปลอดภัย ติดหมู่บ้าน ถนนลาดยาง
*ใกล้แนวรถไฟฟ้าความเร็วสูง กรุงเทพ-อู่ตะเภา

*พร้อมนัดดูที่ดินได้ค่ะ
ติดต่อ:โทร.0888919289 K.กิตติ
0891507411 K.เดช

https://www.prakard.com/viewtopic.php?f=61&t=7870895





























3489
https://www.seonatchai.com/
รับสอน SEO บริการ SEO - บริการ SEO ,สอน SEO ,Google Ads รับทำเว็บไซต์ตามแบบ | SEONATCHAI

3490


ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารพาณิชย์สัญชาติไทยแห่งแรกและแห่งเดียว เดินหน้าเข้าสู่ปีที่ 3 ของ “หลักการธนาคารที่รับผิดชอบ ขององค์การสหประชาติ” (UN Principles for Responsible Banking) สอดรับกับยุทธศาสตร์ธนาคารแห่งความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง พร้อมแลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์กับธนาคารกว่า 240 แห่งทั่วโลก ใช้เครื่องมือของยูเอ็นวิเคราะห์ วางโรดแมปไปสู่ความยั่งยืนในอนาคต ขณะเดียวกันยังเพิ่มการสนับสนุน “สินเชื่อสีเขียว” ในธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และละเว้นการสนับสนุนสินเชื่อให้แก่โรงไฟฟ้าถ่านหินที่เกิดใหม่ ยกเว้นโรงไฟฟ้ามีการเปลี่ยนรูปแบบพลังงานเป็นแหล่งพลังงานคาร์บอนต่ำ และทยอยลดเงินกู้ปัจจุบันในโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินที่มีอยู่แล้วให้เป็นศูนย์ภายในปี 2573 มุ่งหวังร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก ส่งมอบโลกที่ยั่งยืนให้คนรุ่นต่อไป

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า เนื่องจากภาวะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ทุกธุรกิจ ทุกองค์กรและทุกคนบนโลกต้องร่วมมือกันอย่างจริงจังเพื่อช่วยบรรเทาและลดปัญหาที่นำไปสู่การแปรปรวนของภูมิอากาศโลก หรือ ภาวะโลกรวน ดังนั้นธนาคารกสิกรไทยเป็นธนาคารพาณิชย์สัญชาติไทยแห่งแรกและแห่งเดียว จึงได้ร่วมกับธนาคารกว่า 240 แห่ง ใน 69 ประเทศ มีสินทรัพย์รวมคิดเป็น 40% ของมูลค่าสินทรัพย์ธุรกิจธนาคารทั่วโลก ที่ได้ลงนามใน “หลักการธนาคารที่รับผิดชอบ ขององค์การสหประชาชาติ” (UN Principles for Responsible Banking: UN PRB) ของสำนักงานโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งองค์การสหประชาชาติว่าด้วยข้อริเริ่มด้านการเงิน (United Nations Environmental Program Finance Initiative: UNEP FI) ซึ่งเปิดตัวโครงการเมื่อเดือนกันยายน 2562 และธนาคารลงนามรับหลักการในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 โดยในปีนี้โครงการ UN PRB กำลังเดินหน้าเข้าสู่ปีที่ 3 อย่างเข้มข้น

 นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย
นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย

บทบาทที่ธนาคารกสิกรไทยดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด และสอดคล้องกับ “หลักการธนาคารที่รับผิดชอบแห่งสหประชาชาติ” คือ การดำเนินธุรกิจบนหลักการธนาคารแห่งความยั่งยืน แม้ท่ามกลางความท้าทายจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ธนาคารยังคงให้ความสำคัญกับการประเมินความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance factors: ESG) ควบคู่กับการดูแลลูกค้าให้ผ่านพ้นวิกฤติและสามารถเดินหน้าในการทำธุรกิจและดำเนินชีวิตต่อไปได้ในภาวะปกติใหม่ (New Normal) และสนับสนุนลูกค้าให้เปลี่ยนผ่านไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำหรือมุ่งสู่ก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ โดยในการดำเนินงานทั้งหมดนี้ ธนาคารสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายมาอย่างต่อเนื่องและสื่อสารด้วยความโปร่งใส

นอกจากนี้ ธนาคารกสิกรไทยได้ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับธนาคารอื่น ๆ ที่ลงนาม UN PRB จากทั่วโลก (Signatory Banks) รวมทั้งการนำเครื่องมือของ UNEP FI วิเคราะห์พอร์ตสินเชื่อลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ และกำหนดเป้าหมายการดำเนินธุรกิจที่ตอบสนองวาระด้านความยั่งยืนของโลกเรื่องลดผลกระทบการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Reducing the Impact of Climate Change) ได้แก่ ส่งเสริมธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการปล่อยสินเชื่อพลังงานทดแทนให้ได้ 15% ของส่วนแบ่งการตลาดด้านกำลังการผลิต (เมกะวัตต์) และการปล่อยกู้อาคารประหยัดพลังงานให้ได้ 10% ของพอร์ตอสังหาริมทรัพย์ ภายในปี 2568 และละเว้นการสนับสนุนสินเชื่อให้แก่โรงไฟฟ้าถ่านหินที่เกิดใหม่ ยกเว้นโรงไฟฟ้ามีการเปลี่ยนรูปแบบพลังงานเป็นแหล่งพลังงานคาร์บอนต่ำ และทยอยลดเงินกู้ปัจจุบันในโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินที่มีอยู่แล้วให้เป็นศูนย์ภายในปี 2573 เพื่อขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายธนาคารในการสร้าง “สังคมคาร์บอนเป็นศูนย์”

นางสาวขัตติยา กล่าวตอนท้ายว่า ธนาคารกสิกรไทยพร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจบน “หลักการธนาคารที่รับผิดชอบ ขององค์การสหประชาชาติ” ที่กำลังเข้าสู่ปีที่ 3 ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ธนาคารบรรลุเป้าหมายความยั่งยืน ในวาระเร่งด่วนเรื่องลดผลกระทบการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ คือ การสร้างความพร้อมของบุคลากร หล่อหลอมในกระบวนการทำงานจนเกิดเป็นกรีน ดีเอ็นเอ ควบคู่กับการวางโครงสร้างด้านฐานข้อมูล ESG ที่จะวิเคราะห์สถานะของธุรกิจธนาคารในมิติความยั่งยืนได้แม่นยำ ทำให้ตั้งเป้าหมายและสร้างผลลัพธ์ได้ตรงจุด เป็นแบบอย่างองค์กรที่ดีมีธรรมาภิบาล รวมทั้งการส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนในสังคมได้ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องนี้ เพื่อร่วมกันสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก บรรเทาภาวะโลกรวน และส่งมอบโลกที่สมดุลและยั่งยืนให้แก่คนรุ่นต่อไป

“หลักการธนาคารที่รับผิดชอบ ขององค์การสหประชาชาติ” (UN Principles for Responsible Banking) ของสำนักงานโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งองค์การสหประชาชาติว่าด้วยข้อริเริ่มด้านการเงิน (United Nations Environmental Program Finance Initiative: UNEP FI) ประกอบด้วย 6 ประการ ได้แก่

1) Alignment: การมียุทธศาสตร์ในการดำเนินธุรกิจสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals: SDGs) ข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) และหลักการที่เกี่ยวข้อง
2) Impact & Target Setting: การกำหนดและเผยแพร่เป้าหมายที่ธนาคารสร้างผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ
3) Clients & Customers: การปฏิบัติต่อลูกค้าอย่างรับผิดชอบและผลักดันให้เกิดแนวปฏิบัติที่ยั่งยืน
4) Stakeholders: การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง
5) Governance & Culture: การกำกับดูแลและวัฒนธรรมองค์กรสอดคล้องกับหลักการธนาคารที่รับผิดชอบ
6) Transparency & Accountability: การทบทวนและเปิดเผยข้อมูลตามหลักการธนาคารที่รับผิดชอบ

3491
ผู้หญิงๆรับประทานข้าว low Gi คนตั้งครรภ์ควรทานข้าวกล้องโภชนาการสูงข้าวเพื่อสุขภาพแทนยาเพื่อสุขภาพที่ดีของแม่
ปลูกข้าวอินทรีย์  ข้าวเกษตรอินทรีย์ส่งทั่วไทย   ข้าวกล้องอินทรีย์  การปลูกข้าวปลอดสาร   การผลิตข้าวปลอดสาร(ออแกนิค)   ตลาดข้าวปลอดสาร  ถ้าไม่อยากกินยาตลอดชีวิตให้กิน “ข้าวกล้อง” เป็นยาการที่ข้าวเปลือกอินทรีย์ถูกขัดสี ทำให้สูญเสียสารอาหารที่จำเป็นออกไปเป็นจำนวนมาก ยิ่งขัดสีเป็นข้าวขาวหลายครั้งเท่าไร สารอาหารยิ่งเหลือน้อยลงไป การหันกลับมากินข้าวกล้อง เหมือนบรรพบุรุษของเรา จึงเป็นวิถีชีวิตที่ถูกต้อง ช่วยไม่ให้เป็นโรคอันไม่ควรจะเป็น เนื่องจากขาดสารอาหาร
 

การฝึกกินข้าวกล้องออแกนิค ( รูปภาพสำหรับข้าวอินทรีย์ )
1. คนที่เพิ่งหัดกินข้าวกล้อง ( ข้าวออร์แกนิค
) อาจใช้วิธีง่ายๆ คือนำข้าวกล้องผสมกับข้าวขาวในอัตราส่วน 1 : 2 โดยแช่ข้าวกล้องก่อนนำไปหุงรวมกับข้าวขาว เพื่อจะได้สุกพร้อมๆ กัน และค่อยๆ เพิ่มปริมาณข้าวกล้อง จนเปลี่ยนเป็นข้าวกล้องทั้งหมด ท่านก็จะกินข้าวที่ได้คุณค่าอาหารอย่างเต็มที่ 
2. การกินข้าวกล้องก็คือควรกินขณะยังอุ่นๆ โดยทั่วไป พอข้าวสุก ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุประมาณ 5-10 นาทีแล้วควรรีบกิน ข้าวจะนุ่มกินได้ง่าย และให้ค่อยๆ เคี้ยวพอละเอียด จะได้รสชาติหวานอร่อยของข้าวกล้อง ตาม  สถานการณ์ข้าวออร์แกนิคไทย
3. ควรกินข้าวกล้องที่สุกแล้วให้หมดในมื้ออาหารนั้น เพราะข้าวกล้องบูดเสียได้ง่ายกว่าข้าวขาวทั่วๆ ไป

วิธีหุงข้าวกล้องอินทรีย์ เส้นทางผลิตข้าวออร์แกนิคสุรินทร์  

1. ก่อนซาวข้าวควรเก็บสิ่งแปลกปลอมออกเสียก่อน และซาวข้าวเบาๆ ด้วยเวลาสั้นๆ เพียงครั้งเดียว เพื่อไม่ให้วิตามินสูญเสียไปกับน้ำซาวข้าว
2. การหุงข้าวกล้องนั้น ต้องใส่น้ำมากกว่าหุงข้าวขาว การหุงข้าวกล้อง 1 ส่วนจึงควรเติมน้ำประมาณ 2-3 เท่า ถ้าจะให้ประหยัดเวลาหุง ควรแช่ข้าวกล้องก่อนประมาณครึ่งชั่วโมง วิธีนี้อาจทำให้สูญเสียวิตามินบางอย่างที่ละลายน้ำไปบ้าง แต่ไม่แนะนำให้แช่ข้าวเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะข้าวที่มีสี แต่ถ้าจำเป็นต้องแช่ข้าว แนะนำให้ใช้น้ำที่แช่ข้าวนำกลับไปใช้ในการหุ้ง เพื่อลดการสูญเสียสารต้านอนุมูลอิสระในข้าว โดยเฉพาะข้าวสี
3. สำหรับข้าวใหม่หรือข้าวเก่านั้น จะมีผลต่อการหุงต้มเช่นกัน เพราะข้าวใหม่เมื่อหุงสุกจะมีลักษณะเมล็ดข้าวติดกันมาก ส่วนข้าวเก่าเมื่อหุงสุกการติดกันของเมล็ดข้าวจะน้อย เนื่องจากข้าวเก่าเมล็ดข้าวจะแห้งกว่าข้าวใหม่
เหตุนี้จึงทำให้บางท่านหุงข้าวแล้วบอกว่าใช้น้ำมากเท่าเดิมทำไมข้าวจึงแฉะหรือร่วน ซึ่งก็ต้องถามผู้ขายว่า เป็นข้าวเก่าหรือข้าวใหม่ ส่วนจะให้แฉะหรือร่วนแล้วแต่จะชอบ ผู้หุงข้าวจึงต้องใส่น้ำให้เหมาะสมหรือต้องใช้ศิลปะในการหุงเช่นกัน


ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  เครือข่ายข้าวอินทรีย์สุรินทร์

277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : https://www.hor.boutique
Facebook : https://www.facebook.com/Rice.For.Infant/
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @Hor.Boutiqueโครงการนาข้าวอินทรีย์

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ1.ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ 2.ข้าวกล้องหอมมะลิสุรินทร์ ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์ 3.ข้าวปกาอำปึลอินทรีย์ (#ข้าวพื้นถิ่นจังหวัดสุรินทร์) 4.ข้าวผสมห้าสายพันธุ์อินทรีย์ 5.ข้าวกล้องมะลิแดงอินทรีย์ 6.ข้าวมะลินิลอินทรีย์สุรินทร์ 7. ข้าวไรซ์เบอรี่

#ข้าวกล้องอินทรีย์สุรินทร์ #ข้าวกล้องออแกนิคสุรินทร์ #ข้าวกล้องปลอดสารสุรินทร์ #ข้าวกล้องเพื่อสุขภาพสุรินทร์ #ข้าวกล้องหอมมะลิสุรินทร์ #ข้าวกล้องเมืองสุรินทร์

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
 

3492
บริการรับถมที่ ถมดิน ทุกชนิด ราคาถูก ติดต่อ 080-022-3804

3493


เมื่อเร็ว ๆ นี้ 10 หน่วยงานรวมถึงธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีนได้ออก "ประกาศเกี่ยวกับการป้องกันและกำจัดความเสี่ยงของการซื้อขายสกุลเงินเสมือน" โดยชี้แจงว่ากิจกรรมทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินเสมือนเป็นกิจกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมายและการจัดตั้งและปรับปรุงกลไกการทำงานเพื่อจัดการกับความเสี่ยงของการโฆษณาซื้อขายสกุลเงินเสมือนจริง ในวันเดียวกันนั้น คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติและหน่วยงานอีก 11 หน่วยงานได้ออก "ประกาศเกี่ยวกับการควบคุมกิจกรรม "การขุด" สกุลเงินเสมือน โดยประกาศว่ากิจกรรม "การขุด" สกุลเงินเสมือนจะถูกกำจัดอย่างเป็นทางการว่าเป็นอุตสาหกรรมที่ล้าสมัย

จากการรายงานของหนังสือพิมพ์ Economic Daily ระบุว่าทันทีที่ได้มีการประกาศออกไป ก็ทำให้เกิด "แรงสั่นสะเทือน" ในวัฎจักรอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัล ทำให้สกุลเงินเสมือนร่วงลงทั่วกระดานในวันนั้น Bitcoin และ Ethereum ลดลงเกือบ 10% ภายในไม่กี่ชั่วโมง แพลตฟอร์มการซื้อขายสกุลเงินเสมือนหลายแห่งประกาศระงับธุรกิจ ในจีนแผ่นดินใหญ่ โดย Huobi กล่าวว่าก่อนสิ้นปีนี้จะเสร็จสิ้นการถอนผู้ใช้ในจีนแผ่นดินใหญ่ ขณะที่แพลตฟอร์มเช่น Binhe และ BiONE ก็เลือกที่จะหยุดการดำเนินการโดยตรงเช่นกัน

อย่างไรก็ตามผลกระทบเกิดขึ้นนั้น เนื่องจากนโยบายใหม่ได้เผยแพร่สัญญาณสำคัญสองประการที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หนึ่งคือจะมีการจัดตั้งระบบป้องกันและกำจัดความเสี่ยงหลายมิติและหลายระดับ การกำกับดูแลกิจกรรมการซื้อขายสกุลเงินเสมือนจะไม่เป็นความรับผิดชอบเดียวของแผนกเดียวอีกต่อไป แต่จะเป็นนโยบายที่ครอบคลุมของหลายแผนก ฝ่ายบริหารการเงิน แผนกความปลอดภัยทางไซเบอร์และสารสนเทศ ฝ่ายโทรคมนาคม ฝ่ายความมั่นคงสาธารณะ และฝ่ายกำกับดูแลตลาดจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อนำนโยบายที่เป็นระบบมาใช้ในแง่ของการตัดช่องทางการชำระเงิน การกำจัดเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นมือถือที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย และ เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับการลงทะเบียนหน่วยงานทางการตลาดที่เกี่ยวข้องและการจัดการโฆษณา เพื่อป้องกันและจัดการกับความเสี่ยงของการเก็งกำไรในการทำธุรกรรมสกุลเงินเสมือนจริง "เครือข่ายโลก" ขณะที่ด้านกฎระเบียบกำลังพิจารณาร่างข้อกำหนดในรายละเอียด

ประการที่สอง เป็นที่ชัดเจนว่าสกุลเงินเสมือนและกิจกรรมทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องบางอย่างเป็นกิจกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมาย กิจกรรมทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องรวมถึงการแลกเปลี่ยนสกุลเงินเสมือน การทำตลาด และตัวกลางจัดเป็นกิจกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมาย การให้บริการโดยการแลกเปลี่ยนในต่างประเทศแก่ผู้อยู่อาศัยในประเทศในประเทศของ เป็นกิจกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมาย บุคคลธรรมดาที่เข้าร่วมในธุรกรรมการลงทุนสกุลเงินเสมือนก็มี ความเสี่ยงทางกฎหมาย นี่แสดงให้เห็นว่าวัฏจักรสกุลเงินไม่ใช่สถานที่นอกกฎหมาย และมี "ช่องว่างสีเทา" สำหรับการทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมายโดยใช้สกุลเงินเสมือนกำลังแคบลง

ทั้งนี้ ณ จุดนี้การควบคุมของสกุลเงินเสมือนได้เปลี่ยนจากการมุ่งเน้นไปที่การเชื่อมโยงบางอย่างไปยังการออกแบบระดับบนสุด กรอบการกำกับดูแลเพื่อตัดต้นตอของสกุลเงินเสมือนของการเก็งกำไรสกุลเงินเสมือนค่อย ๆ เป็นรูปเป็นร่างและประเทศจีนได้เข้าสู่รูปแบบใหม่ โดยขั้นตอนการกำกับดูแลปกติของสกุลเงินโดยรัฐบาลหรือหยวนดิจิทัล

อันที่จริง การกำกับดูแลสกุลเงินเสมือนในประเทศจีนนั้นยังคงมีแนวโน้มกดดันสูงอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่ปีนี้ ธนาคารกลางและหน่วยงานอื่นๆ ได้ออกนโยบายและมาตรการต่างๆ เพื่อชี้แจงว่าสกุลเงินเสมือนไม่มีสถานะการประกวดราคาตามกฎหมาย ห้ามสถาบันการเงินพัฒนาและมีส่วนร่วมในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินเสมือน ซึ่งเข้าข่ายการฟอกเงินและห้าม ธุรกรรมสกุลเงินเสมือนในประเทศและแพลตฟอร์มการจัดหาเงินทุนการออกโทเค็นและได้บรรลุผลในเชิงบวก

สาเหตุของการโจมตีอย่างหนักในสกุลเงินเสมือนคือกิจกรรมการเก็งกำไรที่เกี่ยวข้องมีความเสี่ยงสูง การไม่เปิดเผยชื่อและการกระจายอำนาจของสกุลเงินเสมือนนั้นง่ายต่อการก่อกิจกรรมที่ผิดกฎหมายและทางอาญา เช่น การ. การระดมทุนที่ผิดกฎหมาย การฉ้อโกง การทุจริตคอรัปชั่น ฯลฯ ซึ่งเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของทรัพย์สินของประชาชนอย่างร้ายแรง ขณะเดียวกัน ก็มีปัญหาเช่น เช่น การฟอกเงินและการโอนทรัพย์สินซึ่งขัดขวางเศรษฐกิจและการเงิน ระเบียบ ระเบียบนำความท้าทายมาสู่ระบบการกำกับดูแลการเงินของประเทศ

แม้ว่าการเสนอขายเหรียญเริ่มต้นในประเทศ (ICO) ในประเทศเกือบจะถูกยกเลิกภายใต้การดูแลที่รุนแรงและกิจกรรม "การขุดเหมืองคริปโต" ก็หยุดลงเช่นกัน แต่เนื่องจากการสร้างความมั่งคั่งที่ดำเนินการมาอย่างยาวนาน และกิจกรรมการค้าและการโฆษณาที่เกี่ยวข้องยังคงถูกห้ามซ้ำแล้วซ้ำอีก นอกจากนี้ความมั่นคงด้านเสถียรภาพของสกุลเงินเสมือนที่ไม่มีความแน่นอน มีความผันผวนสูง มีการ ขึ้นๆ ลงๆ

จากมุมมองนี้ แสดงให้เห็นว่าถึงเวลาแล้วที่สกุลเงินเสมือนจะต้องมาถึงจุดสิ้นสุด แม้ว่าบางคนยังคงยึดมั่นใน "ความเชื่อ Bitcoin" และคาดหวังว่าจะลงทุนในเหรียญคริปโตโดยเหมือนนั่งรถไฟด่วนที่จะรวยในชั่วข้ามคืน ขณะที่บางคนยังคงเฝ้าหลบซ่อน "แอบขุดเหมืองคริปโต" และการทำธุรกรรมในต่างประเทศที่รอให้ "นัก." กลับมาทำการ ซึ่งรัฐบาลจีนจะทำทุกวิถีทางเพื่อหยุดการเก็งกำไรสกุลเงินเสมือนจริงให้สิ้นสุดลงในที่สุด

3494

“แพท พาวเวอร์แพท” บริจาคเงินทุกบาท ที่ได้จากการบวชพระ ขอเป็นสะพานบุญต่อให้ทุกคน เพื่อช่วยโควิดและเด็กในถิ่นทุรกันดาร อยากตอบแทนสังคมที่ให้โอกาส ตามฝันสำเร็จอีกก้าว เปิดสตูดิโอ “มาดู มาฟัง” ทยอยเอาเพลงที่แต่งในเรือนจำ มาทำใหม่ คิดถึงคอนเสิร์ตมาก พร้อมเล่นสดแล้ว

ตั้งแต่ได้ออกมาเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง ก็ดูเหมือนว่าหนุ่ม “แพท พาวเวอร์แพท” หรือ “แพท วรยศ บุญทองนุ่ม” จะค่อยๆ ทำตามฝันได้สำเร็จไปทีละก้าวแล้ว ทั้งการบวชทดแทนบุญคุณพ่อแม่ ทั้งการออกอัลบั้มใหม่ แล้วยังได้เปิดโฮมสตูดิโอเล็กๆ ชื่อ “มาดู มาฟัง” เพื่อทำเพลงเองแบบครบวงจรอีก

และอีกหนึ่งความตั้งใจ ที่อยากตอบแทนสังคม ก็ได้ทำแล้ว โดยได้นำเงินทุกบาททุกสตางค์ ที่ได้มาจากการบวชพระ ไปช่วยชุมชนติดโควิด และซื้ออุปกรณ์จำเป็นให้เด็กๆ ในถิ่นทุรกันดาร แถมล่าสุดวันนี้ ยังได้นำทีมศิลปินค่ายข้าวสารเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ มามอบเงินจำนวน 182,117 บาท ให้กับ “องค์กรทำดี” ของ “บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” เพื่อช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนจากโควิด-19 อีกด้วย

“ช่วงที่เราบวชเป็นพระ ทั้งวันบวชแล้วก็ทุกเช้าที่มีญาติโยมมาใส่บาตร รวมถึงผู้ใจบุญมาร่วมบุญครั้งนี้ ผมก็ตั้งใจไว้ตั้งแต่วันแรกแล้วที่บวช ว่าจะเอาเงินส่วนนี้ รวบรวมแล้วก็ไปทำบุญ ในส่วนไหนๆ แต่ว่าตอนแรกผมยังไม่ได้สรุป ว่าจะไปช่วยตรงไหนบ้าง พอวันที่รับบาตรสุดท้าย รวบรวมเงินมาได้ประมาณ 260,000 บาท ก็ตั้งใจเอาไปเป็นสะพานบุญต่อให้กับคนที่มาร่วมบุญครั้งนี้

ส่วนหนึ่งก็แบ่งไปช่วยเรื่องของโควิดด้วย อีกส่วนหนึ่งก็แบ่งไปช่วยเด็กๆ ประถมที่ถิ่นทุรกันดาร ที่โรงเรียนวัดบางปรัง ที่จังหวัดนครนายกด้วย ในการนำไปจัดซื้ออุปกรณ์ดนตรีต่างๆ ให้เด็กๆ ได้ทำกิจกรรมกัน

แต่ส่วนที่ช่วยโควิด ก็ได้รับการติดต่อมาจากน้องซี เป็นอดีตผู้พ้นโทษที่เคยทำผิด แล้วก็ออกมาปรับตัว ใช้ชีวิตตามทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง การเกษตรโคกหนองนา แล้วผมเองเคยมีโอกาสได้เป็นพิธีกร ที่ทางกรมราชทัณฑ์ได้รับเชิญไป หลังจากที่เราได้รู้จักกันตอนนั้น น้องก็ได้ติดต่อมา ว่าทางชุมชนของน้อง ที่เป็นมุสลิม แถวย่านบางบัวทอง-สุพรรณบุรี มีปัญหาเรื่องของผู้ป่วยโควิด แล้วก็ยังต้องการความช่วยเหลือ

ทางผมเองก็เลยนำเงินส่วนหนึ่ง ไปซื้ออุปกรณ์ เช่น ชุด PPE หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ และเครื่องวัดออกซิเจน ไปมอบให้น้องซี เผื่อไปแจกจ่ายชุมชนมุสลิมในย่านนั้น แล้วตอนที่ผมเป็นพระ ได้มีโอกาสติดตามไปดูงานที่โรงเรียนวัดบางปรัง แล้วก็ไปเห็นโรงเรียนที่เด็กๆ เขาเรียนกัน ว่ายังขาดแคลนในส่วนของห้องคอมพิวเตอร์ แล้วก็อุปกรณ์ดนตรี

ก็ได้รวบรวมคอมพิวเตอร์จากกลุ่มแฟนคลับที่ช่วยเหลือ ก็ได้คอมพิวเตอร์มือสองมาจำนวนหนึ่ง ประมาณ 21 เครื่อง ตอนนี้ก็ไปรวมอยู่ที่วัดเทพศิรินทร์ แล้วเดี๋ยวอีกไม่กี่วันนี้ ก็จะไปจัดซื้อเครื่องดนตรีให้กับน้องๆ ก็เรียกว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ ที่ได้มาจากการร่วมบุญกันในครั้งนี้ ก็นำไปสร้างประโยชน์ต่อ ไม่ได้เก็บไว้เลยสักบาทเดียว”

ตั้งแต่สึกออกมาเดินสายทำบุญตลอด เพราะเป็นความตั้งใจ อยากตอบแทนโอกาสที่สังคมให้มา
“ก็เป็นความตั้งใจอยู่แล้ว ตั้งแต่วันแรกที่ออกมา ก็ได้พูดบอกไว้ ว่าสิ่งที่ผมตั้งใจเป็นหลัก นอกจากเรื่องของการกลับมาทำงานเพลง กลับมาดูแลครอบครัว อีกสิ่งหนึ่งก็คืออยากจะตอบแทนอะไรให้กับคนในสังคม เป็นการสำนึกถึงโอกาส ที่ทุกๆ คนในสังคม ให้เราได้กลับมาอยู่ในสังคม ให้การตอบรับที่ดีกับเรา ก็อยากจะตอบแทนกลับไป เป็นสิ่งดีๆ ที่เราตั้งใจทำไว้แต่แรก เราก็หาโอกาสทำไปเรื่อยๆ”

เปิดประสบการณ์ใหม่ เป็นคณะกรรมการตรวจอุปกรณ์ ในการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันพรุ่งนี้ 1 ตุลาคม
“เรียกว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ของผมเลยดีกว่า เมื่อก่อนเราเคยได้เห็น เคยเป็นผู้ดู คราวนี้เราได้ไปอยู่ในนั้น โดยการที่ถูกรับเชิญไปเป็นหนึ่งในกรรมการในการตรวจอุปกรณ์ ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ก็ติดตามชม ร่วมลุ้นกันได้นะครับ เอาจริงๆ เรื่องพวกนี้ ส่วนตัวก็ไม่ค่อยมีความรู้เท่าไหร่ ก็ไม่ได้กดดันครับ แต่ก็ทราบว่าเอฟซีหลายคนก็ไปคว้านซื้อมากันเยอะพอสมควร (หัวเราะ)

ตอนที่เขาติดต่อมาเราก็ประหลาดใจนะ ว่าทำไมเขาถึงเลือกเรา ก็เป็นงานใหม่ที่ดี ที่เปิดประสบการณ์ให้กับตัวเองอีกแบบหนึ่ง ปกติไม่ได้เป็นคนชอบเสี่ยงโชคเลย เพราะไม่เคยมีดวงทางเรื่องนี้ สมัยก่อนนานมาแล้วก็เคยมีบ้างแหละ แล้วก็พลาดมา ก็เลยรู้ตัวเองว่าทางนี่ไม่ใช่แน่ๆ ครับ ส่วนเลขในใจตอนนี้ อย่าให้พูดเลย (หัวเราะ)”

ทำฝันสำเร็จอีกหนึ่ง เปิดสตูดิโอ “มาดู มาฟัง” ผลิตผลงานครบวงจร ทั้งภาพและเสียง
“ใช่ครับ สตูดิโอ ชื่อ มาดู มาฟัง จริงๆ แล้วเป็นบริษัท แล้วก็ทำเกี่ยวกับภาพและเสียง แต่ว่าในตอนเริ่มต้น เราก็เริ่มเกี่ยวกับการทำดนตรีก่อน จริงๆ แล้วมันเป็นอีกหนึ่งความฝันของผมอยู่แล้ว ในการที่จะทำสตูดิโอผลิตเพลงเป็นของตัวเอง แบบเล็กๆ แล้วก็ทำไปเรื่อยๆ ในช่วงเบื้องต้นก็จะทำงานของวงเป็นหลัก เช่นอัลบั้มเพลงที่จะออก แม้กระทั่งเพลงคัฟเวอร์ต่างๆ ที่ทุกคนได้เห็น ก็คือผลิตงานแทบจะ 80 เปอร์เซ็นต์จากที่นี่ สตูดิโอมาดูมามาฟัง

ก็เป็นโฮมสตูดิโอเล็กๆ เป็นก้าวแรกของเรา เรียกแบบนี้ดีกว่า เป็นอีกหนึ่งความฝันที่เราอยากจะทำ ทำคนเดียวครับ แล้วก็มีเพื่อนๆ มาช่วยบ้าง มันไม่ได้เยอะมาก จริงๆ แล้วของที่ใช้ คืออุปกรณ์ที่เราใช้ในอาชีพอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดนตรี เครื่องทำเพลงอะไรต่างๆ คือเป็นสิ่งที่เรามีอยู่แล้ว แล้วก็มาประกอบร่างกัน ให้มันเป็นอะไรที่ครบวงจรมากขึ้น ก็ค่อยๆ ทำไป

ถามว่าจะขยายให้ใหญ่ขึ้นไหม คือเราไม่ได้รีบร้อนขนาดนั้น เราทำเรื่อยๆ ตามสเต็ปของเรา ตอนนี้ก็เริ่มมีแต่งเพลงให้กับศิลปินในค่ายข้าวสารบ้าง ล่าสุดคือแต่งเพลงให้กับกรมอนามัย เป็นเพลงในโครงการก้าวท้าใจ อันนี้คือทุกขั้นตอนแทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ผลิตที่นี่เลย ทั้งทำนองเนื้อร้องและอัดเสียง ก็มีต่อเนื่องเลย ก็ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี เฉพาะเพลงของวงเองก็ 10 กว่าเพลงแล้วครับ ที่กำลังจะทยอยออก”

รู้สึกตัวเองโชคดี และมีความสุขมาก ได้ทำงานดนตรีอย่างที่ตั้งใจ ขอบคุณทุกคนที่ซัปพอร์ต
“มีความสุขมาก รู้สึกตัวเองโชคดี สิ่งต่างๆ ที่เราสะสมมา มันส่งผลนะ ทำให้ทุกวันนี้ สิ่งที่เราอยากทำ สิ่งที่เราฝันเนี่ย มันค่อยๆ ทยอยมาเรื่อยๆ แล้วเราก็พยายามเก็บเกี่ยวมันไปเรื่อยๆ อย่างที่ไม่ได้รีบร้อนอะไร แต่มันไม่ได้เกิดขึ้นได้เพราะตัวผมคนเดียวนะ มันก็ต้องมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยซัปพอร์ต เพื่อนๆ คอยช่วย ครอบครัวคอยเป็นแบ็กอัป ก็ถือว่าตัวเองโชคดีที่มีบุคคลเหล่านี้คอยช่วยเหลือครับ”

หยิบเพลงที่แต่งไว้ในเรือนจำ เอามาต่อยอดเยอะมาก
“มีเยอะครับ อย่างในอัลบั้มที่กำลังจะออกเร็วๆ นี้ แล้วก็มีอีกหลานเพลงเลย ที่เป็นเพลงที่แต่งในเรือนจำ แล้วก็มีบางเพลง ที่ผมหยิบมาให้กับนักร้องน้องใหม่ในค่ายด้วย เรียกว่าจะทยอยหยิบมาใช้ ดูความเหมาะสม ว่าเพลงนี้เหมาะกับใคร ถ้าเป็นพาวเวอร์แพท น่าจะเป็นช่วงไทม์มิ่งไหน แต่ว่าในอัลบั้มใหม่ที่จะออกปลายปีนี้ ได้ฟังกันหลายเพลงแน่ๆ แล้วหลายเพลงที่เล่นตอนออกมาจากเรือนจำใหม่ๆ บางเพลงก็คนอยากรู้ ว่าถ้าเป็นดนตรีแบบฟลูแบรนด์มันจะออกมาเป็นยังไง”

คิดถึงการเล่นคอนเสิร์ตมาก อุปกรณ์พร้อมแล้วตอนนี้
“คิดถึงมากครับ อุปกรณ์เราเตรียมพร้อมสำหรับแสดงสดมากๆ ก็อยากจะกลับมาเล่นครับ”

3495


รองโฆษกรัฐบาล เผย ครม.อนุมัติแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ปีงบประมาณ 65 วงเงินรวม 339,291.87 ล้านบาท หวังให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ รองรับการฟื้นตัวหลังโควิด

วันนี้ (28ก.ย.) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2565 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งประกอบด้วย 1.แผนการก่อหนี้ใหม่ วงเงินรวม 1,344,783.84 ล้านบาท 2.แผนการบริหารหนี้เดิม วงเงินรวม 1,505,369.64 ล้านบาท และ 3.แผนการชำระหนี้ วงเงินรวม 339,291.87 ล้านบาท

แผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2565 เป็นกรอบในการกู้เงินสำหรับรัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ โดยมีวัตถุประสงค์ในการกู้เงิน ประกอบด้วย (1)การกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ (2)การกู้เงินเพื่อดำเนินโครงการเงินกู้เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมตามมาตรการในการแก้ไขกรณีงบประมาณรายจ่ายลงทุนมีจำนวนน้อยกว่าวงเงินส่วนที่ขาดดุลงบประมาณรายจ่ายประจำปี (3)การกู้เงินภายใต้แผนงานตาม พ.ร.ก. กู้เงินโควิด-19 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 (4)การกู้เงินเพื่อการลงทุนในโครงการต่าง ๆ อาทิเช่น โครงการรถไฟทางคู่ โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โครงการปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้า เป็นต้น (5)การกู้เพื่อเสริมสภาพคล่องของรัฐวิสาหกิจ และ(6)การกู้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้และการชำระหนี้ของรัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ

การคาดการณ์หนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2565 ภายใต้แผนบริหารหนี้สาธารณะนี้ จะอยู่ที่ร้อยละ 62.69 ซึ่งไม่เกินร้อยละ 70 ตามกรอบการบริหารหนี้สาธารณะกรอบใหม่ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ทั้งนี้ กระทรวงการคลังคาดว่า การลงทุนในแผนงานโครงการต่างๆ ตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะจะทำให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เพื่อรองรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจภายหลังจากที่สถานการณ์โควิด-19 มีแนวโน้มคลี่คลาย

หน้า: 1 ... 231 232 [233] 234 235 ... 240

 เว็บที่น่าสนใจ  :  หัวเชื้อน้ำยาล้างตะกรัน   หัวเชื้อน้ำยาล้างแอร์   จาระบีอุตสาหกรรม   เช่าโฮสติ้ง  เสื้อผ้าเด็กอ่อน  ขายส่งกลูต้าไธโอนแบบฉีด  
ติดต่อลงโฆษณา