ยินดีต้อนรับสู่เว็บประกาศฟรี www.fieldcircus.com

"เว็บไซต์นี้เป็นเพียงสื่อกลางในการประกาศ ซื้อ/ขาย ทางเว็บจะไม่รับผิดชอบใดๆต่อการติดต่อ ซื้อ/ขาย ของท่านทุกรายการ โปรดพิจารณาความเหมาะสมก่อนการ ซื้อ/ขาย"

เสื้อผ้าเด็กอ่อน,เสื้อผ้าเด็กแรกเกิด,บอดี้สูทเด็ก  สเปรย์ล้างโซ่ สเปรย์หล่อลื่นโซ่  ติดตั้งกล้องวงจรปิด        

 

ผู้เขียน หัวข้อ: ประวัติความเป็นมาข้าวของเครื่องใช้น้ำหอม (Perfume) ที่ยิ่งใหญ่  (อ่าน 77 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Keekayr1200gs

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 31395
    • ดูรายละเอียด
เรื่องราวประวัติเครื่องใช้น้ำหอม (Perfume) ที่ยิ่งใหญ่
      รู้ยังเหมา น้ำหอมที่ฉันใช้กันอยู่เวลานี้ มีชีวประวัติเจ็ดชั่วโคตรถึง 4,000 ปี ผละข้อพิสูจน์วิถีเรื่องเก่าแก่ถิ่นยังมีชีวิตอยู่ภาพจิตกรรมฝาผนังที่วิหารข้าวของเครื่องใช้พระราชินี Hatshepsut ภารา Thebes แคว้น Egypt ซึ่งในภาพจะจัดโชว์ให้เห็นว่าผู้หญิงชาวอียิปกำลังชโลมน้ำหอมลงบนขม่อมของตัวเอง นั่นก็แสดงความสามารถให้เห็นว่า ได้มีการเริ่มใช้น้ำหอมในยุคนั้น กับเราจะตั้งต้นแจงปกรณ์สรรพสิ่งน้ำหอมกันตั้งแต่ข้างในช่วงเวลาที่หนึ่งกันเลยนะคะ

น้ำหอมในระยะเวลาแรก (สมัยเมโสโปเตเมีย)
     น้ำหอมผู้หญิงที่กาลเวลาแต่ก่อนเริ่มจากภายในสมัยเมโสโปเตเมีย  ซึ่งในที่เวลาเดิมนั้นคนพื้นที่จะใช้น้ำหอมได้คือฟาร์โร และเหล่านักบวชที่จะนำน้ำหอมไปเปลืองในการทำกรรมบูชาขนาดนั้น ซึ่งจะชำระคืนการเผาให้ชาตกลิ่นอาย ได้แก่ การเผายางไม้ สีปาก หรือกาบต่าง ๆ และคำว่า "Perfume" คำนี้ก็มีรากศัพท์มาจากภาษามนุษย์ละติน ที่แปลว่า "ควัน" จึงเป็นเหตุเดิมของน้ำหอม นักบวชจะใช้ประโยชน์ในการสักการะการสังเวยบูชาต่าง ๆ ที่เป็นเยี่ยงอย่างของของดินแดน และนอกเหนือจากการใช้ในธรรมเนียม ก็ยังมีการใช้พรหมทาที่ร่างกาย บ้านเรือน ตูก หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยง พร้อมด้วยราชินีแห่งอิยิปต์ที่มีพระนามว่า Hatshepsut   ทรงมีความชอบน้ำหอมมาก จึงอุ้มชูให้มีการแสวงหารุกข์ กุสุมาลย์ที่มีกลิ่นหอม เพราะนำมาลงมือหมายถึงน้ำหอมกลิ่นอายต่าง ๆ สืบมาเมื่อพระนาง Hatshepsut สวรรคต ชาวอียิปต์ก็ได้ประกอบสวนดอกไม้ด้วยกันสร้างแผ่นหินจารึกกิจจาต่างๆ ไว้เกี่ยวกับเป็นการสดุดีอีกด้วย พร้อมทั้งพระนางคลีโอพัตราก็ยังสละทาน้ำหอมที่ใบเรือพร้อมทั้งตัวเรือล้วนก่อนที่จะประพาสต้นไปรับข้าราชการการเมืองชาวโรมัน เป็นเหตุให้เหล่าชาวโรมันที่รอการมาของพระนาง อาจได้กลิ่นน้ำหอมพลัดเรือที่ทรงนั่งมาก่อนกำหนดที่จะเห็นตัวเภตราของพระนางด้วย   
น้ำหอมผู้หญิงกาลเวลาตรงกลาง   

ในเวลานี้กรรมวิธีในการขัดขวางจะต่างจากกาลเวลาฐาน เนื่องจากชาวอาหรับหาได้กระทำคิดค้นเคล็ดการกลั่นนํ้าหอมได้จบ พร้อมด้วยมีการใช้แอลกอฮอร์มาเป็นตัวทำละลาย ด้วยกันน้ำหอมกลิ่นที่หนึ่งที่ได้ทำแยกคือกลิ่นดอกกุหลาบ และหลังจากนั้น นำ้หอมก็ได้ทัศนาจรเข้าสู่ศตวรรษที่ 14 เพราะการเข้าสู่ทวีปยุโรธ พร้อมกับคนชาติดั้งเดิมเนื้อที่ได้นำน้ำหอมเข้ายุโรปรวมความว่าชาวฮังกาเรี่ยน ยินยอมอาณัติของพระราชินี Elizabeth แห่งฮังการี่ จึงเรียกน้ำหอมกลิ่นนี้ว่า น้ำฮังการรี่ ซึ่งเป็นต้นแบบสิ่งของน้ำหอมในระยะเวลาต่อ ๆ มา


          น้ำหอมยุคใหม่ (ล่าสุด)   
 น้ำหอมได้เข้าสู่กรรมวิธีผลิตแบบอุตสาหกรรมแบบเอาจริงเมื่อศตวรรษที่ 19 และได้นำไปสู่วงการแฟชันอย่างเต็มกำลัง เมื่อปี คศ. 1920  เพราะว่ามีชาวรัสเซียที่ชื่อเสียงเรียงนามว่า Ernest Beaux ซึ่งหมายถึงนักทำน้ำหอมตะเวนมาที่ปารีส พร้อมกับได้นำเสนอน้ำหอมที่ตนเองทำให้กับ Gabrielle Bonheur Chanel ซึ่งก็เปลี่ยนไปมาเป็นแบรนด์ Chanel  ในยุคปัจจุบัน พร้อมทั้งได้รับผลสะท้อนเป็นอย่างดี และกลิ่นที่ขายคล่องด้วยกันดังมัตถก หมายความว่า Chanel NO.5 และตั้งแต่นั้นมา อุตสาหกรรมด้านน้ำหอมก็ได้ก้าวหน้าขึ้นอย่างในทันที และมีใช้สะพัด ในคนทุกอันดับ ชั้นจนเข้าสมัยนี้

ขอบคุณบทความจาก :

Tags : น้ำหอม

 


 เว็บที่น่าสนใจ  :  หัวเชื้อน้ำยาล้างตะกรัน   หัวเชื้อน้ำยาล้างแอร์   จาระบีอุตสาหกรรม   เช่าโฮสติ้ง  เสื้อผ้าเด็กอ่อน  ขายส่งกลูต้าไธโอนแบบฉีด  
ติดต่อลงโฆษณา